วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2563

ลุยฝนเที่ยวที่...เฮลซิงกิ



 

อัพบล๊อกวันนี้ก็มาถึงกรุงเฮลซิงกิ (Helsinki) ประเทศฟินแลนด์แดนซานต้าแล้วนะครับ ... พอเอ่ยถึงประเทศฟินแลนด์ ทุกท่านคงนึกถึงโทรศัพท์ยี่ห้อดังโนเกีย ดินแดนที่หนาวเย็นและหมู่บ้านซานตาคลอส และระบบการศึกษาที่ดีเยี่ยมแห่งหนึ่งของโลกเลยนะครับ .... แต่วันนี้เราไม่ได้พาไปรู้จักในรายละเอียดลึกซึ้งขนาดนั้นนะครับ เพียงแต่พาท่านมาชมเมืองเฮลซิงกิแค่พอสังเขปเท่านั้น เพราะเรามีเวลาอยู่ที่นี่เพียงหนึ่งวันกับหนึ่งคืนเท่านนั้นเอง.

ความเดิมในบล๊อกก่อนเราพาท่านเดินทางจากเมืองกู๊ดวานเกนไปพักที่ Vestlia สกีรีสอร์ทเมืองไจโล (Geilo) ซึ่งเป็นเมืองเล้กๆแต่ขึ้นชื่อเรื่องที่พักสำหรับเล่นสกี จากนั้นก็เดินทางเข้ากรุงออสโลเมืองหลวงของประเทศนอรเวย์ เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง และเดินเที่ยวที่ย่านถนนช้อปปิ้ง Karl Johans Gate ก่อนไปขึ้นเครื่อง Finair มาที่เฮลซิงกิ และเข้าพักที่ Redisson blue, Helsinki  
(อ่านเพิ่มเติม)




กรุงเฮลซิงกิ (Helsinki) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศ ริมชายฝั่งอ่าวฟินแลนด์ ตัวเมืองมีประชากรประมาณ 600,000 คน เฮลซิงกิอยู่ติดกับเมืองวันตาและเอสโปซึ่งรวมตั้งเป็นเขตเมืองหลวงหรือมหานครเฮลซิงกิ มีประชากรเกือบหนึ่งล้านคน และถ้านับเขตที่อยู่อาศัยในปริมณฑลด้วยจะมีประชากรมากกว่า 1.2 ล้านคน ... เฮลซิงฟอร์สเป็นชื่อเมืองดั้งเดิม และยังคงเป็นชื่อเมืองในภาษาสวีเดนในปัจจุบัน ในอดีตเป็นชื่อที่ใช้ในระดับนานาชาติด้วย
 


Helsinki, Finland

ชาวฟินแลนด์ มีภาษาใช้เป็นของตัวเอง ส่วนในราชการจะใช้ได้ทั้งภาษาฟินแลนดืและภาษาสวีเดน แต่สกุลเงินปัจจุบันใช้สกุลเงินยูโร ... ประเทศฟินแลนด์มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐฟินแลนด์ เป็นประเทศในกลุ่มนอร์ดิก ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปยุโรป เขตแดนด้านตะวันตกเฉียงใต้จรดทะเลบอลติก ทางด้านใต้จรดอ่าวฟินแลนด์ ทางตะวันตกจรดอ่าวบอทเนีย ประเทศฟินแลนด์มีชายแดนติดกับประเทศสวีเดน นอร์เวย์ และรัสเซีย สำหรับหมู่เกาะโอลันด์ที่อยู่ห่างจากชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้นั้น อยู่ภายใต้การปกครองของฟินแลนด์ แต่เป็นเขตปกครองตนเอง เคยถูกรัสเซียยึดครองและเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซีย เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุด คือ เฮลซิงกิ เมืองสำคัญอื่น ๆ ได้แก่ เอสโป วันตา ตัมเปเร โอวลุ และตุรกุ .... ฟินแลนด์มีประชากร 5.52 ล้านคน (ข้อมูล ณ กลางปี พ.ศ. 2562) ประชากรส่วนมากอาศัยอยู่ในตอนกลางและตอนใต้ของประเทศ และพูดภาษาฟินแลนด์ ซึ่งเป็นกลุ่มภาษาฟินนิกจากตระกูลภาษายูรัล และไม่มีความสัมพันธ์กับภาษาสแกนดิเนเวียแต่อย่างใด 
 


Sibelius Park, Helsinki


เช้านี้วันที่ 28 พฤศจิกายน 2019 ที่เมืองเฮลซิงกิที่อากาศ 3 องศา แต่เย็นเหมือนติดลบเลย เพราะมีทั้งลมและฝน วันนี้จึงเที่ยวฟินแลนด์แบบฝนๆลมๆทั้งวัน...ส่วนที่เที่ยวก็มีเช่น เดินชมตลาดเช้า (ที่ไม่เจอพ่อค้าเลย เพราะหนาว) น้ำพุธิดาแห่งบอลติก สัญลักษณ์ประจำเมือง อนุสาวรีย์ซิเบลิอุส (Sibelius Monument) ที่สร้างเป็นเกียรติให้ท่าน ยาห์น ซิเบลิอุส ผู้ประพันธ์เพลงฟินแลนด์เดีย ชมวิหารอุสเพนสกี้ (วิหารแบบออธอดอกที่ว่างดงามมากแห่งหนึ่งของยุโรป ชมโบสถ์เทมโป ลิโอคิโอ หรือ Temple liokio rock church ที่เจาะเข้าไปในเขาหินแกรนิต ท้ายของวันก็ปล่อยให้นักช้อบเดินกันแถวๆย่านกลางเมือง เพื่อให้คนสะตังค์เหลือใช้ซื้อของแบรนด์เนมกัน..ส่วนเราก็อาศัยไออุ่นห้าง stockman เดินแก้หนาว...

วันนี้ทานอาหารกลางวันดีมีสไตล์ แต่ไวน์แดงก็ล่อเราไป 11.5 €/แก้ว และตอนจ่ายก็มือชานิดๆ...ตกบ่ายๆขึ้นเรือสำราญ Silja Line (ซิลยา ไลน์) เพื่อไป Stockholm ดินเนอร์บนเรือแบบบุพเฟ่ แต่เบียร์กับไวน์ไม่อั้น เขาให้เวลา 2 ชั่วโมง เราใช้จนเหลือ 2 นาที จนเจ้อ้วนสาวฟินด์มองหน้าจึงพากันขึ้นนอน บางกลุ่มเขาไปต่อกันที่ดิสโก้เธคก็มี. ..... ตามไปชมกันเลยครับ

 


ที่อนุสาวรีย์ซิเบลิอุส (Sibelius Monument)

Sibelius Monument (อนุสาวรีย์ ซิเบลิอุส) ตั้งอยู่ใน Sibelius Park ฟินแลนด์ สร้างขึ้นเพื่อสดุดีให้แก่นักประพันธ์เพลงชื่อดังชาวฟินแลนด์นามว่า Jean Sibelius ซึ่งแต่งเพลงปลุกใจอย่างฟินแลนเดีย เพื่อปลุกให้ชาวฟินแลนด์ลุกขึ้นมาเรียกร้องเอกราชจากรัสเซีย เมื่อครั้งประวัติศาสตร์ที่ประเทศฟินแลนด์เคยตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของรัฐเซีย อนุสาวรีย์แห่งนี้มีรูปทรงที่สวยแปลกตา ออกแบบโดย Eila Hiltunen โดยใช้แท่งเหล็กจำนวน 600 แท่ง มาเชื่อมเข้าด้วยกันให้มีรูปร่างเหมือนออแกนลมที่มีความสูง 8.5 เมตร กว้าง 10.5 เมตร ลึก 6.5 เมตร (28 ft. x 34 ft. x 241 ft.) น้ำหนัก 24 ตัน เป็นจุดเด่นกลางแจ้งที่ดึงดูดสายตานักท่องเที่ยวให้เข้าไปถ่ายภาพกันมากมาย  




Sibelius Monument



รูปปั้นซิเบลิอุส 

เดินถ่ายภาพที่อนุสาวรีย์ซิเบลิอุสเช้านี้ท่ามกลางสายฝนที่ลงมาประปรายในขณะที่อุณหภูมิลดลงเกือบ 0 องศา อยู่กันได้ไม่นานต้องรีบวิ่งขึ้นรถ แสนเสียดายวิวสวยๆริมท่าเรือข้างสวน ... แต่เราต้องไปต่อที่น้ำพุเทพธิดาแห่งบอลติค (Havis Amanda) และตลาดเช้าซึ่งก็อยู่ใกล้ๆท่าเรือสำราญที่เราจะอาศัยนอนข้ามทะเลบอลติคในคืนนี้ครับ



ท่าเรือที่เฮลซิงกิใกล้ๆสวนซิเบลิอุส

.......

Havis Amanda หรือรูปปั้นธิดาแห่งบอลติค ที่อยู่ในสภาพเปลือย ตั้งบนแท่นน้ำพุ มีนาคหลายตัวรอบๆฐาน .... ซึ่งรูปปั้นนั้นเป็นเหมือนอีกหนึ่งสัญลักษณ์ใจกลางกรุงเฮลซิงกิ ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดให้ใครก็ตามที่มาเที่ยวเฮลซิงกิ จะต้องเเวะเวียนมายังสถานที่่เเห่งนี้ ... เพราะมันทั้งความหมาย เรื่องเล่า เเละตำนานปะปนกันไปอย่างน่าสนใจครับ



น้ำพุธิดาแห่งทะเลบอลติก สร้างมาตั้งเเต่ปี ค.ศ.1908 นับว่ามีอายุมากกว่าร้อยปีมาเเล้ว ซึ่งมันเป็นประติมากรรมที่มีความสมส่วนเเละสวยงามอย่างมาก โดยได้รับการออกเเบบโดย วิลเลย์ วาเกน ที่ได้ปั้นประติมากรรมรูปหญิงงามเปลือยที่สมส่วนเเละสวยงามเป็นอย่างมาก ซึ่งตั้งอยู่กลางน้ำพุที่สวยงามอย่างมาก โดยทำให้มันกลายเป็นที่มาของฉายาว่า ธิดาแห่งทะเลบอลติก โดยตัวของรูปปั้นหญิงสาวนั้นเเทนเมืองเฮลซิงกิที่มีความงดงามดุจหญิงสาววัยเเรกเเย้ม ส่วนทางด้านน้ำพุนั้นก็เเทนทะเลบอลติก ซึ่งเมืองเฮลซิงกิตั้งอยู่ นับว่าเป็นน้ำพุที่มีชื่อเสียงเเละมีความหมายอย่างมากเลยทีเดียว ... เสียดายวันที่เราไปอากาศหนาวจัดจึงไม่มีการเปิดน้ำพุให้ชม
 
 


รูปปั้นธิดาแห่งบอลติค (ใกล้ๆตลาดเช้า)

​​​​​​Havis Amanda นั้นยังมีเรื่องเล่าเเละตำนานความเชื่อที่น่าสนใจอีกด้วย โดยว่ากันว่าหากใครสามารถโยนหมวกให้ขึ้นไปสวมบนประติมากรรมของสาวงามได้เเล้วล่ะก็ เขาคนนั้นจะมีความก้าวหน้าในเรื่องหน้าที่การงานเป็นอย่างยิ่ง จึงทำให้มีบรรดานักศึกษาจบใหม่มาทดลองทำกันอย่างมากเลยทีเดียว ซึ่งในปัจจุบันการโยนหมวกขึ้นไปนั้นอาจจะเสี่ยงต่อการโดนเจ้าหน้าที่เรียกไปตักเตือน เเต่ก็ยังเห็นเด็กๆ เเอบทำกันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งหากคุณไปเที่ยวก็อาจจะได้เห็นเช่นกัน ซึ่งหากเห็นก็ช่วยลุ้นไปกับเขาด้วยเเล้วกันว่าให้สามารถโยนหมวกไปใส่ให้ประติมากรรมหญิงงานได้

 

ขอบคุณภาพจาก Wikipedia (CR. Wikipedia)



ใกล้ๆท่าเรือสำราญเฮลซิงกิ




ใกล้ๆท่าเรือสำราญเฮลซิงกิ


ใกล้ๆท่าเรือสำราญเฮลซิงกิ

 

จากรูปปั้นธิดาแห่งบอลติค เราเดินเลียบริมทะเลไป จะเป็นตลาดเช้า (แต่ไม่มีใครมาขายของ เพราะหนาวมาก)  เดินไปเรือ่ยๆก็จะถึงมหาวิหารวิารอุสเพนสกี้ (Uspenski Cathedral) ที่เป็นศานสถานของชาวคริสต์นิกานออธอดอกซ์ที่ว่ากันว่างดงามที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปเหนือ .... อากาศที่หนาวเย็นทำให้เราอยากเข้าห้องน้ำมากๆ เหลือบไปเห็นใกล้ๆทางขึ้นเหมือนเป็นท่ารถอะไรซักอย่าง เดินไปที่ห้องล๊อกเกอร์เจอห้องน้ำพอดี รอดตายหวุดหวิด...



Uspenski Cathedral, Helsinki

มหาวิหารอุสเพนสกี้ สถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ งดงามแปลกตาด้วยสถาปัตยกรรมแบบรัสเซีย มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกจากการใช้เป็นสถานที่ถ่ายทําภาพยนตร์รางวัลออสการ์เรื่อง เรดส์ วิหารแห่งนี้สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1864 ออกแบบและก่อสร้างโดย Aleksey Gornostayev โดยใช้เวลาก่อสร้างถึง 6 ปีเศษ ด้านนอกวิหารมีสีสันแปลกตาซึ่งหาดูได้ยาก โดยตัววิหารเป็นสีน้ำตาลอิฐ โดมสีฟ้าอ่อน และยอดโดมเป็นสีทอง ภายในตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามด้วยสีทองและอัญมณี มหาวิหารอุสเปนสกี้นี้ถือเป็นเครื่องแสดงถึงความสัมพันธ์ของฟินแลนด์กับ รัสเซียโดยที่รัสเซียเคยปกครองฟินแลนด์อยู่ถึง 100 กว่าปี
 


ภาพจากด้านหน้า


ด้านในวิหาร (ที่กำลังบูรณะ)



วิวท่าเรือเฮลซิงกิ จากลานของมหาวิหารอุสเพนสกี้



วิวเฮลซิงกิ จากลานของมหาวิหารอุสเพนสกี้



มหาวิหารเฮลซิงกิที่จตุรัสวุฒิสภา กลางกรุงเฮลซิงกิ






มางเข้าโบสถ์หิน เทมเป ลิโอ คิโอ (Templeliaukio Church)

Temppeliaukio Church นั้นเป็นศาสนสถานที่มีความน่าสนใจอย่างมากอีกเเห่งของฟินเเลนด์ โดยโบสถ์นี้ตั้งอยู่ในกรุงเฮลซิงกิ มีความสวยงามเเละเเปลกตาอย่างมากช่วยสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่มาเยือนโบสถ์เเห่งนี้อย่างมากเลยทีเดียว จนกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกเเห่งที่ใครมาเที่ยวเฮลซิงกิเเล้วไม่ควรพลาดมาเที่ยวชมความสวยงามเเบบเเปลกๆ ของที่นี่กัน
 



ภายในโบสถ์


โบสถ์เทมเปลิโอคิโอ นั้นมีอีกชื่อว่า โบสถ์หิน หรือที่ชาวฟินเเลนด์มักจะนิยมเรียกว่า โบสถ์แห่งความรัก เพราะว่ามันเริ่มก่อสร้างในวันวาเลนไทน์ เเละใช้ใช้เวลาก่อสร้างเพียงเเค่หนึ่งปีเท่านั้นเเละเสร็จในวันที่ 14 กุมภาพันธ์อีกเช่นเดียวกัน ถือว่าเป็นความจงใจของผู้สร้างอย่างชัดเจน ซึ่งที่ตั้งของโบสถ์เเห่งนี้เเต่เดิมนั้นเป็นเนินเขาหินเเกรนิตที่ตั้งอยู่ขวางเเละดูเกะกะอย่างมากจึงมีการดัดเเปลงพื้นที่เเห่งนี้เสียใหม่ให้เป็นศาสนสถานด้วยการระเบิดชั้นหินธรรมชาติออกไปเเล้วทำเป็นโพลงพร้อมกับสร้างโบสถ์ครอบเข้าไปอย่างสวยงามเเละเเปลกประหลาดด้วยการออกเเบบของสถาปนิกสองพี่น้องชาวฟินเเลนด์ที่ชื่อว่า Timo และ Tuomo Suomalainen ทำให้สถานที่เเห่งนี้กลายเป็นจุดเด่นของเมืองด้วยรูปเเบบภายนอกที่ทันสมัยอย่างมาก เเละภายในที่มีการตกเเต่งด้วยหินธรรมชาติงดงาม โดยทีช่องด้านบนนั้นจะทำเป็นระบายเพื่อรับเเสงจากภายนอก โดยหลังคาด้านบนนั้นมีการประดับด้วยลวดทองเเดงที่มีความหนากว่าหนึ่งนิ้ว โดยนำมาขดเป็นวงกลมที่ดูเเปลกตาอย่างมากเลยทีเดียว
 
 


ด้านในโบสถ์ เทเป ริโอ คิโอ

Temppeliaukio Church นั้นได้รับความนิยมในหมู่หนุ่มสาวชาวฟินเเลนด์ที่จะมาจัดพิธีเเต่งงานกันที่โบสถ์เเห่งนี้เพราะชื่อเสียงเเละความหมายของโบสถ์ที่ได้รับการยอมรับกันอย่างมาก เเถมมีความเชื่ออีกว่าหากมาจุดเทียนอธิฐานในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความรักเเล้วมักจะสมหวังในความรักทุกรายไป จึงมีหนุ่มสาวนชาวฟินเเลนด์มาจุดเที่ยวกันอยู่เสมอๆ เลยทีเดียวรวมทั้งบรรดานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่รู้เรื่องราวก็มักจะมาจุดเทียนกันอีกด้วย

.......






เมืองเฮลซิงกิ


สถานีรถไฟเฮลซิงกิ


ในกรุงเฮลซิงกิ


ทางเข้าด้านข้างห้างสต๊อกมันน์ แหล่งละลายทรัพย์กลางกรุงเฮลซิงกิ


ข้างห้างสต๊อกมันน์ ... กำลังประดับไฟใกล้เทศกาลคริสต์มาส

........


เรือ Silja Line ที่เราจะนอนข้ามทะเลบอลติคในคืนนี้ (28 พย. 2019)


ประมาณ 15.00 น. ของเวลาท้องถิ่นในฟินแลนด์ (เวลาจะเร็วกว่าสวีเดน 1 ชั่วโมง) เราก็เดินทางไปท่าเรือเพื่อลงเรือสำราญ Silja Line ออกเดินทางข้ามทะเลไปที่กรุงสต๊อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ในเวลา 17.00 น.  ... โดยบนเรือนั้นเขาเลี้ยงดินเนอร์และอาหารเช้าเราด้วย (รวมในราคา) ... ชอบเรือนี้ตรงมีไวน์ เบียร์ หรือวิสกี้เลี้ยงไม่จำกัดแก้ว แต่ในเวล 2 ชั่วโมงนะ...เพราะฉะนั้นกะเหรี่ยงแบบเราเข้าห้องอาหารได้ตามเวลานัดคือ 19.00 น. เราก็ลุยไวน์ของเขาก่อนเลย สรุปว่าจนสาวเก็บของเขาเริ่มมาป้วนเปี้ยน และนาฬิกาข้อมือบอกว่าเหลือ 2 นาทีจะครบกำหนดนั่นแหละถึงลุกจากโต๊ะ (ไม่ยอมให้เวลาหมดเลยทีเดียว เพื่อรักษาฟอร์มกะเหรี่ยงแบบเรา..) เบ็ดเสร็จหมดไป 11 แก้ว...เยี่ยมเลย ส่วนอาหารเช้าเขาเปิดตั้งแต่ 6 โมงเช้า - 9 โมงเช้า เพราะเรือจะเทียบท่าตอน 9.45 น. (ราคาค่าโดยสารก็อยู่ที่ 135 USD. ตรวจสอบในเวบอีกครั้ง) เวลาในการเดินทาง 17 ชั่วโมง 45 นาที 

ถ้าใครชอบซีฟู๊ดแบบฝรั่งๆละก็เรือนี้มีให้เยอะเลยครับ ... ส่วนห้องพักสบายๆ หน้าต่างริมทะเล แบบ 4 เตียง (ชั้นบน 2 เตียง ล่าง 2 เตียง) แต่เราใช้เฉพาะเตียงล่าง 2 เตียงแบบในภาพครับ ... ความสะดวกสะบายบนเรือดีครับ

 


ห้องนอนของเรือที่ชั้น 


ชั้น 7 มีร้านค้า ห้องอาหาร และเธค



ร้านค้า


ถ่ายลงมาจากช่อดาดาฟ้าเรือ


ชั้ยบนสุดสำหรับชมวิว...แต่วันนี้หนาวมาก


ออกๆปถ่ายภาพข้างนอกได้ไม่เกิน 10 นาทีต้องรีบเข้ามาอาศัยไออุ่นด้านใน


เข้าสู่สต๊อกโฮล์มในยามเช้า

เราเดินทางในสแกนดิเนเวียมาจนถึงเมืองสุดท้ายคือ Stockholm ประเทศสวีเดน ซึ่งเราจะอยู่ที่นี่ 2 วันกับหนึ่งคืนในเมืองของสวีเดนครับ ... บล๊อกต่อไปเราจะพาไปชมความงามของเมืองสต๊อกโฮล์มกัน สำหรับบ๊ล๊อกนี้ขอบคุณที่ติดตามครับ



ลากันด้วยภาพมหาวิหารอุสเพนสกี้ครับ

 

ไม่มีความคิดเห็น: