อ่าน : เที่ยวสวิส1... เตรียมตัวไปเที่ยวสวิส
สวัสดีปีใหม่ 2018 ครับทุกท่าน.
วันนี้จะพาไปเที่ยวสวิสเซอร์แลนด์ แดนธรรมชาติที่สวยงาม ซึ่งเป็นการเดินทางท่องเที่ยวสวิสในหน้าหนาวตอนที่ 2 ของเราในวันที่ 22 พย. 2017 หลังจากที่ได้แนะนำวิธีการเตรียมตัวเดินทางไปสวิสในบล๊อกที่ 1 มาแล้ว
ในทริบนี้เราใช้เวลาเดินทางชมสถานที่ต่างๆในสวิสเป็นเวลา 8 วันเต็มๆ และออกจากสวิสในวันที่ 9 .... ทริบนี้เราเดินทางท่องเที่ยวในสวิสโดยใช้รถไฟเป็นหลักครับ โดยที่เราได้ซื้อตั๋ว Swiss Travel Pass ไปจากเมืองไทยแบบ 8 วันครับ ส่วนราคาก็สามารถเข้าไปดได้จากเวบ https://www.sbb.ch/en/leisure-holidays/travel-in-switzerland/international-guests/swiss-travel-pass.html ตั๋วแบบนี้สามารถใช้เดินทางได้ทั้งหมดที่เกี่ยวกับขนส่งสาธารณะของสวิส โดยรวมไปถึง รถไฟ รถเมล์ รถบัส รถราง และเรือ แถมเข้าชมพิพิธภัณฑ์ได้ฟรีเป็นบางแห่งอีกด้วย .... สรุปคือสะดวกมากๆ
สถานีรถไฟวินเทอร์ทูร์
ตั๋วสวิสทราเวลพาส เราสามารถหาซื้อได้จากตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยครับ ถ้าเรามีกำหนดการเดินทางเรียบร้อยแล้ว เราสามารถทำ Valid จากประเทศไทยได้เลย ทั้งนี้เพื่อสะดวกกับการเดินทางเมื่อไปถึง แต่ถ้ายังไม่แน่นอน เราก็สามารถไปซื้อที่สนามบินที่เราไปถึง หรือสถานีรถไฟได้ครับ ....
เมื่อได้ตั๋วแล้วอย่าลืมกรอกหมายเลขพาสปอร์ตและเซ็นต์ชื่อเราเข้าไปด้วย เมื่อเราขึ้นรถไฟจะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจ เขาอาจจะขอดู Passport ประกอบตั๋วนั่นด้วย
เมื่อได้ตั๋วแล้วอย่าลืมกรอกหมายเลขพาสปอร์ตและเซ็นต์ชื่อเราเข้าไปด้วย เมื่อเราขึ้นรถไฟจะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจ เขาอาจจะขอดู Passport ประกอบตั๋วนั่นด้วย
Swiss Travel Pass
ทีนี่มาดูการรอและขึ้นรถไฟที่สถานี (ดูได้ที่ https://wicsir.blogspot.com/2017/12/blog-post.html) ซึ่งได้เขียนไว้ในบล๊อกที่ผ่านมาแล้ว คร่าวๆคือรถไฟสวิสจะมี 2 ชั้นคือชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 แต่ความสะดวกสะบายก็ใกล้เคียงกัน ตอนซื้อตั๋วเราสามารถเลือกซื้อได้
เพราะคนสวิสเขาเลือกใช้วิธีเดินทางโดยรถไฟมาก เขาจึงมีตั๋วแบบรายปีขายให้ประชาชนเขาด้วย เวลาเราเดินทางในสวิสจึงไม่ค่อยเจอเขาไปซื้อตั๋วบ่อยนัก แต่ก็มีเครื่องขายตั๋วแบบอัตโนมัติอยู่ทั่วไปนะครับ
เพราะคนสวิสเขาเลือกใช้วิธีเดินทางโดยรถไฟมาก เขาจึงมีตั๋วแบบรายปีขายให้ประชาชนเขาด้วย เวลาเราเดินทางในสวิสจึงไม่ค่อยเจอเขาไปซื้อตั๋วบ่อยนัก แต่ก็มีเครื่องขายตั๋วแบบอัตโนมัติอยู่ทั่วไปนะครับ
ภายในสถานีรถไฟ Winterthur
สถานีรถไฟแต่ละแห่งจะมีข้อมูลบอกนักเดินทางไว้มากมาย เหมือนสนามบินยังไงยังงั้น เพราะรถไฟในสวิสเดินทางตรงเวลาไม่แพ้ในประเทศญี่ปุ่นครับ ....
สำหรับนักท่องเที่ยวไทยที่มักจะใช้ห้องน้ำเมื่ออยู่ในสถานีรถไฟ อันนี้ยังต้องเสียค่าบริการโดยหยอดเหรียญผ่านเครื่งกั้นเข้าไปนะครับ อย่างที่สถานี Winterthur นี้จะเสียเงิน 1.5 สวิสแฟรงค์เลยนะครับ แต่มีบางสถานีก็ฟรี
เที่ยวสวิสวันแรกของเรา เริ่มที่สถานีรถไฟซูริค ไปวินเทอร์ทูร์ จากนั้นไปที่ Stein am Rhein และสุดท้ายที่น้ำตก Rhinefalls ก่อนนั่งรถเข้าพักที่ซุริค
เราออกจากซูริคสายพอควรเพราะเมื่อเครื่องลงที่สนามบิน Zurich Airport หรือ Kloten Airport แล้วเราต้องหาซื้อซิมคาร์ดเพื่อใช้กับโทรศัพท์ ก่อนที่จะนำสัมภาระอันมีกระเป๋าขนาด 24 นิ้ว 2 ใบ และ 20 นิ้วอีกหนึ่งใบไปฝากไว้ที่สถานีรถไฟในซูริคก่อน (ดูวิธีฝากกระเป๋าที่ coin locker) แล้วตรวจสอบดูว่า รถไฟขบวนไหนจะออกไปสู่ 3 เมืองด้านบนก่อน แจ๊คพอร์ตมาที่เมือง Winterthur นี่จึงเป็นจุดเริ่มเที่ยวที่เมืองนี้ก่อน (ที่จริงเราวางแผนไว้ว่าจะไป Schaffhausen ก่อน) .... ไปเที่ยวกันเลยครับ
Winterthur (วินเทอร์ทูร์)
วินเทอร์ทูร์ เป็นเมืองสำคัญอีกเมืองหนึ่งในรัฐซูริค อยู่ห่างจากเมืองซูริคไปทางตะวันออกประมาณครึ่งชั่วโมงโดยรถไฟ ในอดีตเมืองนี้เป็นเมืองคู่แข่งทางการค้ากับซูริคแต่ปัจจุบันซูริคทิ้งห่างไปแล้ว แต่ที่วินเทอร์ทูร์โดดเด่นอยู่ในปัจจุบันก็คือ เป็น "เมืองศิลปะของสวิส" (Switzerland's City of Art) จนเมืองนี้กลายเป็นศูนย์ศิลปะวัฒนธรรมของประเทศ
เมืองนี้มีพิพิธภัณฑ์ที่สะสมงานศิลปะ ถึง 2 แห่ง คือ Museum Oskar Reinhart Am Stadgarten และ Kunstmuseum สำหรับขาชมพิพิธภัณฑ์ที่นี่นับว่าคุ้มครับ ... ข้อดีของการนั่งรถไฟเที่ยวสวิสคือ สถานีรถไฟส่วนมากจะจอดใกล้ๆย่านเมืองเก่า หรือไม่ก็ใจกลางเมืองเก่ากันเลย เราจึงไม่จำเป็นต้องนั่งรถเมล์หรือรถโพสบัสต่อ ที่วินเทอร์ทูร์ก็เหมือนกัน จากสถานีเราเดินข้ามถนนก็ถึงเมืองเก่าแล้ว
สีสันของอาคารบ้านเรือนในวินเทอร์ทูร์ออกฉูดฉาดเหมือนสีลูกกวาด สวยงาม ว่ากันว่าสถาปัตยกรรมการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนที่นี่เป็นแบบยุคปลายโกธิกและบาร๊อก ส่วนพื้นถนนจะปูด้วยหินก้อนสี่เหลี่ยม ถนนไม่กว้างนัก แต่รถไม่ติด เพราะที่นั่นเขานิยมใช้จักรยานกันมาก ตามถนนจะมีเสารูปปั้นเทพีต่างๆและด้านล่างเป็นน้ำพุครับ .... ช่วงที่ไปตามถนนจะมีสีสันมากเพราะใกล้เทศกาล Christmas และ ปีใหม่ด้วย
Winterthur เป็นเมืองใหญ่อันดับที่ 6 ของสวิส มีพลเมือง 109,700 กว่าคน ... การเดินทางจากสถานีรถไฟ Zurich HB SZU มาที่ Winterthur มีทั้งรถแบบ IC หรือ ICN (InterCity) หรือ IR (InterRegio) หรือรถขบวนท้องถิ่น (S-Bahn) ใช้เวลาใกล้เคียงกันคือประมาณ 33 นาที
(อ่านเพิ่ม : https://en.wikipedia.org/wiki/Winterthur)
ในย่านเมืองเก่าวินเทอร์ทูร์
น้ำพุจะอยู่กลางถนนแบบนี้
สีสันของอาคารในเมือง
City Hall
ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีที่วินเทอร์ทูร์
กระดานหมากรุกใหญ่ในที่สาธารณะ
ซุ้มอาหารไทยก็มีให้เห็น
ป้ายรถเมล์
Stein am Rhein (ซไตน์ อัม ไรน์)
จากเมืองวินเตอร์ทูร์ เรานั่งรถไฟสายท้องถิ่น (S-Bahn) ไปต่อที่เมืองซไตน์ อัม ไรน์ เมืองเล็กๆน่ารักมากในสายตาผู้เขียน โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที ผ่านทุ่งหญ้าและบ้านเรือนในชนบทที่สวยงาม เมืองซไตน์ อัม ไรน์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไรน์ ... บนรถไฟเราได้นั่งคุยแลกเปลี่ยนความรู้กับลุงชาวสวิส ที่แกนั่งรถไปเพื่อจะลงสถานีระหว่างทางด้วย แกบอกว่าปกติหน้านี้อากาศจะค่อนข้างแย่ มีหมอกลงหนาทุกวัน แถมบางวันหิมะตกอีกต่างหาก คนสวิสจึงใช้เวลาช่วงนี้หนีไปอยู่ประเทศเขตร้อน เช่นเมืองไทยกันมาก ... แต่ปีนี้คุณโชคดีมากที่เจออากาศสดใสแบบนี้ ได้เห็นวิวข้างทางอย่างชัดเจนและสวยงาม การนั่งรถไฟสายท้องถิ่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่เราได้นั่งชมวิวไปในตัว เพราะรถสายท้องถิ่นบางสายมีแค่รางเดียว ต้องรอหลีกก็มี ณ เวลาเช่นนั้นเราจะได้เห็นวิถีชีวิตของคนสวิสไปด้วย .... ก็จริงนะ
Stein am Rhein ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศสวิส ติดกับชายแดนเยอรมัน และทะเลสาบ Konstanz อยู่ในรัฐชาฟฟ์ฮาวเซน มีพื้นที่ประมาณ 5.76 ตารางกิโลเมตร ประชากร 3000 กว่าคน คนส่วนใหญ่พูดภาษาเยอรมัน (อ่านเพิ่ม: https://en.wikipedia.org/wiki/Stein_am_Rhein)
สถานีรถไฟ Stein am Rhein
มีเมืองนี้แหละที่สถานีรถไฟตั้งอยู่ในเขตเมืองใหม่แต่ก็ไม่ไกลเมืองเก่านัก สามารถเดินไปถึงได้ไม่ยาก... เมื่อลงจากรถแล้วเดินตามถนนข้ามสะพานไป มองเห็นยอดโบสถ์แหลมๆ นั่นแหละคือย่านเมืองเก่า มีถนนสายหลักในเมืองเก่าแค่สายเดียว มีร้านค้าและโรงแรมเรียงรายกันอยู่ เดินจากถนนสายนั้นลงไปทางแม่น้ำประมาณ 80 เมตรก็จะถึงท่าเรือที่เราสามารถซื้อตั๋วล่องไปไปที่ Schaffhausen และเมืองอื่นๆริมฝั่งทะเลสาบคอนสตันซ์ (Lake Konstanz) หรือทะเลสาบ 3 สัญชาติ อันมี สวิส ออสเตรีย และเยอรมัน ได้
สะพานข้ามแม่น้ำไรน์...ด้านหลังคือย่านเมืองเก่า
แม่น้ำไรน์
บ้านเรือนริมฝั่งไรน์ด้านเมืองใหม่
บ้านเรือนริมฝั่งไรน์ด้านเมืองเก่า
ความน่ารักของเมืองนี้ก็คือ ที่ผนังด้านนอกของตึกมีภาพเขียนเฟรสโกสวยงามเต็มไปหมด และชื่อร้านที่ทำเป็นป้ายยื่นออกมา ก็ดูสวยงาม .... ตามถนนที่ปูด้วยหินก็มีการสร้างน้ำพุไว้เช่นกัน
ในเมืองเก่าซไตน์ อัม ไรน์
ป้ายร้านที่ทำยื่นออกมาในถนน
ริมฝั่งไรน์
ด้านหลังสถานีรถไฟซไตน์ อัม ไรน์
ใกล้สถานีรถไฟ
ชนบทตามเส้นทางที่ผ่าน
Rhinefalls @ Schaffhausen (ชาฟฟ์เฮาเซิ่น)
จากเมืองเล็กๆ Stein am Rhein เรานั่งรถไฟสายท้องถิ่น S-Bahn ต่อไปยัง Schaffhausen โดยใช้เวลาประมาณ 26 นาที ผ่านท้องทุ่งสีเขียวที่ชาวสวิสกำลังตัดหญ้าเพื่อเก็บไว้ใช้ในหน้าหนาว นานๆจะเห็นฟาร์มแกะและโค ... ไม่นานนักเราก็มาถึงสถานีรถไฟ Schaffhausen ในช่วงบ่ายๆ ลงรถเสร็จก็ตรงออกจากสถานีเพื่อไปขึ้นรถเมล์สาย 1 ที่ป้ายด้านหน้าบอกว่า Rheinfalls โดยใช้ตั๋ว Swiss Travel Pass ใบเดียวนั่นแหละครับ 10 กว่านาทีก็ถึงป้ายบอกทางลงไปน้ำตก หรือง่ายๆคือดูคนที่ลงรถนั่นแหละครับ ลงเยอะๆ ใช่เลย
Rhinefalls ส่วนด้านบนขวาคือปราสาทเวิร์ท (Schloss Worth) ในประเทศเยอรมัน
จากป้ายรถเดินลงไปตามถนนแคบๆสู่แม่น้ำไรน์ ใกล้เข้าไปจะได้ยินเสียงน้ำตกดังมาแล้ว ... Rhinefalls เป็นน้ำที่ไหลลดหลั่นของแม่น้ำไรน์ พอมาถึงช่วงนี้จะตกจากผาสูงประมาณ 23 เมตร บนความกว้าง 150 เมตร อีกฝั่งข้ามสะพานไปจะเป็นปราสาทเยอรมัน อยู่บนเนินเขาครับ
ฝั่งไรน์ด้านเมือง Schaffhausen ที่เราไปเดิน เขาทำถนนเลียบแม่น้ำยาวหลาย กม. ไว้ให้คนเดินออกกำลังกัน (หรือเดินเที่ยวก็แล้วแต่ชอบ) บางช่วงมีสวนป่าที่กำลังเปลี่ยนสี ... เราเดินลงไปตรงที่มีรูปหมีตั้งอยู่ เลยเข้าไปเป็นร้านอาหารและที่ขายตั๋วเรือล่องเข้าไปชมน้ำตกอย่างใกล้ชิด และสามารถขึ้นไปบนเกาะที่มีธงสวิสปักอยู่ได้ (แต่วันที่ไปไม่เห็นมีการล่องเรือกัน อาจจะเป็นเพราะอากาศที่หนาวและน้ำที่เย็นจัดก็ได้..ผู้เขียน) เราเดินชมน้ำตกเรื่อยไปจนถึงสะพาน และข้ามไปด้านปราสาทแต่ไม่มีเวลาเข้าชม เพราะกลัวมืดก่อน เพราะน้าหนาวที่สวิสมืดเร็วเหลือเกิน 4 โมงนิดๆก็มืดแล้ว
ฝั่งไรน์ด้านเมือง Schaffhausen ที่เราไปเดิน เขาทำถนนเลียบแม่น้ำยาวหลาย กม. ไว้ให้คนเดินออกกำลังกัน (หรือเดินเที่ยวก็แล้วแต่ชอบ) บางช่วงมีสวนป่าที่กำลังเปลี่ยนสี ... เราเดินลงไปตรงที่มีรูปหมีตั้งอยู่ เลยเข้าไปเป็นร้านอาหารและที่ขายตั๋วเรือล่องเข้าไปชมน้ำตกอย่างใกล้ชิด และสามารถขึ้นไปบนเกาะที่มีธงสวิสปักอยู่ได้ (แต่วันที่ไปไม่เห็นมีการล่องเรือกัน อาจจะเป็นเพราะอากาศที่หนาวและน้ำที่เย็นจัดก็ได้..ผู้เขียน) เราเดินชมน้ำตกเรื่อยไปจนถึงสะพาน และข้ามไปด้านปราสาทแต่ไม่มีเวลาเข้าชม เพราะกลัวมืดก่อน เพราะน้าหนาวที่สวิสมืดเร็วเหลือเกิน 4 โมงนิดๆก็มืดแล้ว
ไกลสุดคือทางรถไฟที่ไปซูริค
Schaffhausen เป็นเมืองหลวงของรัฐ Schaffhausen ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางวงล้อมของเยอรมันถึง 3 ด้าน พื้นที่ของรัฐชาฟฟ์เฮาเซิ่นเมื่อมองจากแผนที่จึงคล้ายๆกับติ่งที่ยื่นเข้าไปในประเทศเยอรมัน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ตัวเมืองมีแม่น้ำไรน์ (Rhine) ไหลผ่าน ในย่านเมืองเก่าที่นี่ก็มีภาพวาดเฟรสโกปรากฏให้เห็นอยู่มากมาย นอกจากนั้นยังมีมหาวิหาร หรือมึนสเตอร์ (Munster) และป้อมมูนอท (Munot) ให้ไปเยี่ยมชมอีกด้วย
Schaffhausen ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ มีแม่น้ำไรน์ไหลผ่านกลาง มีพื้นที่ทั้งหมด 41.86 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรประมาณ 36,000 คน และมีสถานะเป็นเมืองหลวงของรัฐ Schaffhausen.
รถไฟกำลังวิ่งผ่านสะพานบริเวณน้ำตก
ถ่ายจากด้านใต้ของน้ำตก ... เกาะตรงกลางมีธงสวิสสามารถล่องเรือไปขึ้นได้
เวลาเราจะล่องเรือเข้าชมน้ำตกอย่างใกล้ชิดต้องมาซื้อตั๋วที่อาคารนี้ซึ่งมีร้านอาหารด้วย
เกาะกลางแม่น้ำเป็นของสวิสครับ..ดูที่ธง
การเดินทางไป Schaffhausen :
- ถ้ามาจากซูริค จะมีรถไฟ IC หรือ IR ไปยังสถานีชาฟฟ์เฮาเซิ่น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที มีรถออกทุกๆชั่วโมง โดยก่อนถึง Nauhausen จะเห็นน้ำตกไรน์อยู่ทางด้านขวามือ
- ถ้ามาจาก Winterthur จะมีรถไฟท้องถิ่นวิ่งไป Schaffhausen ผ่าน Nauhausen ใช้เวลาเดินทาง 25 - 30 นาที โดยมีรถออกชั่วโมงละ 3 เที่ยว ในนาทีที่ 6, 19 และ 42
- เดินทางจาก Schaffhausen ไปน้ำตก โดยรถบัสสาย 1 ซึ่งจอดอยู่หน้าสถานี ออกทุกๆ 10 นาที ไปลงยังป้าย Nauhausen Zentrum ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที ส่วนขากลับสถานี ป้ายรถจะอยู่ถนนอีกเส้น เพราะเป็นเส้นทางให้รถวิ่งทางเดียว
ภาพนี้ถ่ายย้อนลงไปทางใต้กระแสน้ำตก เห็นสะพานโค้งอยู่ไกลๆ
ภาพพานอรามาให้เห็นมุมกว้างบริเวณ Rhinefalls
สรุป..ในวันแรกของเราในสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากเดินทางเข้ามาถึงสนามบินนานานชาติ... ที่ซูริคในตอนเช้าประมาณ 6.30 น. เวลาท้องถิ่นแล้ว เราก็เดินทางไปสถานีรถไฟ Zurich HB SZU เพื่อฝากกระเป๋าที่นั่น แล้วนั่งรถไฟไปเที่ยวที่เมือง Winterthur จากนั้นก็ออกเดินทางโดยรถไฟต่อไปที่เมือง Stein am Rhein แล้วจึงเดินทางไปที่เมือง Schaffhausen เพื่อชมน้ำตก Rhinefalls ก่อนที่จะนังรถไฟกลับไปพักที่ซูริค.
แผนที่การเดินทางโดยรถไฟ
💘💘ขอบคุณที่ตามอ่านครับ แล้วเจอกันในบล๊อกต่อไปโดยจะพาคุณๆไปชมเมือง Bern เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์โดยพฤตินัย💘💘
_________________
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น