วันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2561

เที่ยวสวิส 3 .... Bern and Zurich






บล๊อกที่แล้วเราพาคุณๆไปเที่ยว 3 เมือง โดยเริ่มจากวันแรกที่ลงเครื่องที่สนามบิน Zurich แล้วนั่งรถไฟเป็นวงกลมไปวินเทอร์ทูร์ ซไตน์ อัมไรน์ และไปชมน้ำตกไรน์ ที่เมืองชาฟฟ์เฮาเซิ่นก่อนกลับที่พักที่นครซูริคในตอนค่ำ

สถานีรถไฟกรุงเบิร์น


วันนี้เป็นวันที่ 2 (23 พย. 2017) ของการมาเที่ยวสวิสของเรา ซึ่งมีโปรแกรมต้องเดินทางไปเที่ยวเมืองเบิร์นแล้วกลับมาพักที่ซูริคอีกวันครับ ... จากที่พักซึ่งเป็นอพาร์ทเม้นท์ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ Zurich HB SZU นัก เพียงการเดินแค่ 15 นาที โดยเช็คเวลารถไฟจากเวบแล้วได้รถเที่ยว 08.06 น. เป็นรถ IR ใช้เวลา 1 ชั่วโมง วิ่งตรงไปสถานีปลายทางที่เบิร์นเลย



BERN  (เบิร์น)

เบิร์น เป็นเมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์ มีหมีเป็นสัญญลักษณ์ ตั้งอยู่เกือบกึ่งกลางของประเทศ มีประชากรประมาณ 133,115 คน (Dec, 2016)  พื้นที่เมือง 51.6 ตาราง กม.

เบิร์นตั้งอยู่ริมคุ้งน้ำอาเรอ (Aare River) ทำให้เขตใจกลางเมืองถูกล้อมรอบไว้ด้วยแม่น้ทั้ง 3 ด้าน จึงเหมาะสำหรับป้องภัยจากศัตรูในยุคก่อนได้เป็นอย่างดี ... พื้นที่คุ้งแม่น้ำนี้เรียกว่าแหลมรอสส์เฟล (Rossfeld Penisula) เป็นพื้นที่ยกสูงขึ้นอย่างมาก (ดูภาพ) ... เมืองเบิร์นก่อสร้างเมืองตามอย่างที่เห็น เมื่อปี ค.ศ. 1191 เมื่อดยุคแบร์ชโทลด์ที่ 5 แห่งราชวงชาริงเงิน (Berthod V of Zahringen) เข้ามามีอำนาจ

เบิร์น (Bern) มาจากคำว่า แบร์ (Bear) ในภาษาดัตช์ ซึ่งก็คือ "หมี" สัตว์ที่ดยุคแบร์ชโทลด์นำมาตั้งเป็นชื่อเมือง จากการที่ทรงดำริว่า จะตั้งชื่อเมืองตามสัตว์ที่พบและล่าได้เป็นตัวแรก.... เบิร์นได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก นอกจากนี้แบร์นยังได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ. 2010

บาห์นฮอฟพลัทซ์ (ฺBahnhof Platz)





สถานีรถไฟเบิร์นเป็นสถานีชุมทางขนาดใหญ่ของสวิส มีทั้งขบวนระหว่าประเทศและในประเทศทุกประเภท ยิ่งถ้าเราเดินทางในช่วงเร่งด่วนแล้ว ผู้คนจะเยอะมาก แต่ถึงคนจะเยอะเท่าไหร่ก็ตาม เราไม่เห็นผู้โดยสารต้องยืนเลยนะครับ เพราะรถออกจากซูริคนั้นถี่มาก แต่ต่าง Direction หรือสถานีปลายทางกัน รถหลายๆขบวนจึงวิ่งเข้าเบิร์นก่อน ก่อนออกไปสู่สถานีปลายทาง เช่น Brig, Basel,  Geneva กัน

           
 หอนาฬิกา Zytglogge


เราถึงสถานี Bern ตามกำหนดเวลา ออกจากชานชาลาได้ก็แวะหาทานอะไรกันในร้านอาหารพวกฟาสท์ฟูดก่อน พร้อมกับจัดการเรื่องห้องน้ำให้เสร็จไปด้วย เพราะจากสถานีวันนี้เรามีโปแกรมเดินเที่ยวค่อนข้างยาวนาน .... ด้านหน้าสถานีรถไฟจะมีจตุรัสขนาดใหญ่ มีขนส่งสาธารณะมากมายหลายอย่างผ่านที่นั่น ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ รถราง หรือรถโพสบัส ภายใต้โดมกระจกสีฟ้า ซึ่งเอาไว้กันฝน กันหิมะสำหรับผู้คน


หอคอย Kafigtrum หรือ Prison Tower


ถนนที่ทอดยาวออกไปทางตะวันออกของเมืองผ่านย่านเมืองเก่า ปูด้วยหินและรักษาบรรยากาศของเมืองเก่าที่นี่เอาไว้ บนถนนมีทางรถรางวิ่งผ่านไปตรงกลาง นานๆจะเห็นรถส่งของวิ่งเข้าไปบนถนน ... ริมถนนจะเป็นตึกประมาณ 3-5 ชั้น มีทางเดินทั้งสองฝั่งถนน มีร้านค้าหรือ Arcade (อาร์เขต) อยู่ริมทางสายนี้ มีสินค้ามากมายรวมถึงนาฬิกายี่ห้อดังๆของสวิสด้วย ... ในแต่ละช่วงถนนจะมีชื่อเรียกต่างกันออกไป รวมแล้วช่วงถนนทั้งหมดยาวประมาณ 6 กม. ถ้าเผื่อหิวก็แวะซูเปอร์มาเก็ต Coop และ Migros ได้


หลังคาโดมเขียวนั่นคืออาคารสภาแห่งสมาพันธรัฐสวิส



รูปปั้นบนเสาและน้ำพุด้านล่างมีตลอดทั้งแนวถนน



ถ้าเดินออกไปหน่อยจะเจอสวนสาธารณะ


ด้านข้างสวนจะมีโบสถ์



วิวเมืองเบิร์นจากสวนสาธารณะ






ใกล้สถานีรถไฟเบิร์น


Eistein House 

บ้านหลังนี้อยู่ใกล้หอนาฬิกาดาราศาสตร์หรือ Zytglogge ไอสไตน์เคยมาอาศัยอยู่ที่นี่
เมื่อครั้งมาทำงานเป็นผู้ตรวจสอบของสำนักงานสิทธิบัตรของสวิส 
ในช่วงปี ค.ศ.1902 ปัจจุบันห้องหับของเขาได้จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์



ถนนในย่านเมืองเก่า

ถนนในย่านเมืองเก่าที่ปูด้วยหินสี่เหลี่ยม และมีทางรถรางวิ่งผ่าน สองด้านเป็นร้านค้ามากมาย






 บ้านเมือง Bern ตั้งอยู่ริมแม่น้ำอาเรอ (Aare River)





สะพานที่จะข้ามแม่น้ำอาเรอไปบ่อหมี


ข้ามสะพานนี้มาทางผู้ถ่ายภาพ จะเป็นป้ายรถเมล์ พอข้าถนนไปอีกด้านจะเป็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกอยู่บริเวณเดียวกัน จากร้านอาหารเราสามารถมองข้ามแม่น้ำอาเรอไปทางเมืองเก่ากรุงเบิร์นได้ โดยมองเห็นยอดวิหารใหญ่สูงเด่นท่ามกลางเมืองที่มีหลังคาสีแดง...ส่วนด้านล่างพอลงลิฟท์ไปสู่ริมแม่น้ำจะเป็นสวนโชว์หมีให้นักท่องเที่ยวชม


คุ้งแม่น้ำอาเรอ..ซ้ายมุมล่างคือบ่อหมี


ทางเข้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและบ่อหมีจะมีรูปปั้นหมีไต่เส้นลวด


ข้างบ่อหมี


กับรูปปั้นไอสไตน์


Bern จากด้านบ่อหมี



บ้านเรือนริมฝั่งแม่น้ำอาเรอ



ในสภาวะปกติจะมีหมีออกมาโชว์บริเวณนี้





เราใช้เวลาเดินเที่ยวชมเมืองเบิร์นตั้งแต่ประมาณ 9.00 น. ยาวมาจนถึงประมาณบ่าย 2 โมงครึ่ง โดยเดินจากสถานีรถไฟไปสวนสาธารณะ .... แล้วย้อนกลับเข้าถนนประวัติศาสตร์ย่านเมืองเก่า เรื่อยไปจนข้ามสะพานแม่น้ำอาเรอ เดินชมบ่อหมีทั้งที่หมีจำศีลไปแล้ว ก่อนที่จะขึ้นรถเมล์กลับมาลงที่บาห์นฮอฟพลัทซ์ (ฺBahnhof Platz) ใกล้ๆสถานีและนั่งรถไฟกลับซูริค.





💘💘💘💘


ซูริค (Zurich)


รถไฟขบวน IR พาเรามาถึงนครซูริคประมาณ 15.30 น. เรากลับไปพักตั้งหลักที่อพาร์ทเม้นท์ก่อน ก่อนที่จะกลับออกมาเดินชมแสงสีในย่านเมืองเก่าหรือถนนช้อปปิ้งใกล้ๆสถานีรถไฟในตอน 17.30 น.

สถานีรถไฟซูริค


ซูริค  เป็นเมืองหลวงของรัฐซูริค เป็นเมืองใหญ่คึกคักมากที่สุดในสวิส เป็นศูนย์รวมของทุกสิ่งในสวิส ตั้งแต่ศูนย์กลางการคมนาคม การทำมาค้าขายเศรษฐกิจ การเงินการธนาคาร ฯลฯ ตลอดจนศูนย์กลางการท่องเที่ยว จะไม่โดดเด่นในเรื่องธรรมชาติเหมือนเมืองอื่นๆ แต่ในย่านเมืองเก่ายังรักษาความสวยงามไว้ให้เห็นเฉกเช่นเมืองเก่าในสวิสทั่วๆไป






ซูริค เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์และเป็นเมืองหลวงของรัฐซูริค ตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนเหนือของประเทศ บริเวณจุดเหนือสุดของทะเลสาบซูริค (Lake Zurich) มีประชากรในเขตตัวเมืองทั้งหมด 400,028 คน และประชากรบริเวณรอบตัวเมืองรวมทั้งสิ้น 1.4 ล้านคน ซูริคเป็นศูนย์กลางของระบบการขนส่งมวลชนของประเทศ อาทิ ระบบขนส่งรถไฟ เส้นทางการคมนาคม การจราจรทางอากาศ โดยเป็นที่ตั้งของสนามบินและสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดและการจราจรหนาแน่นที่สุดในประเทศ





ซูริคได้ถูกก่อตั้งมานานกว่า 2,000 ปี โดยชาวโรมันช่วง 150 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งขณะนั้นซูริคมีชื่อเรียกว่า Turicum อย่างไรก็ตามร่องรอยการเข้าอยู่อาศัยในซูริคได้ถูกค้นพบว่ายาวนานถึง 6,400 ปีแล้ว ในช่วงยุคกลาง ซูริคได้รับเอกราชเมื่อปี ค.ศ. 1,519 และเป็นศูนย์กลางการปฏิวัติศาสนาคริสต์นิกายโปรแตสแตนท์ในยุโรปภายใต้การนำของ Ulrich Zwingli




ซูริคใช้ภาษาเยอรมันเป็นภาษาราชการ แต่อย่างไรก็ตามภาษาที่นิยมพูดกันเป็นหลักคือเยอรมันแบบภาษาถิ่นสวิส (Alemannic Swiss German dialect)





ซูริคเป็นเมืองชั้นนำของโลกและเป็นหนึ่งในเมืองที่มีศูนย์กลางทางการเงินขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งซึ่งตรงข้ามกับจำนวนประชากรที่ค่อนข้างน้อยของประเทศ เป็นที่ตั้งของสถาบันทางการเงินและการธนาคารยักษ์ใหญ่มากมาย อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมของศูนย์วิจัยและศูนย์พัฒนาของประเทศ เนื่องจากมีการเก็บภาษีในอัตราที่ต่ำ ซูริคจึงดึงดูดให้นักลงทุนจากต่างชาติเข้ามาตั้งบริษัทของตนเป็นจำนวนมาก



ตกแต่งร้านในช่วงใกล้คริสมาส


ในปี 2012 จากผลการสำรวจของ Monocle's 2012 "Quality of Life Survey" ได้จัดอันดับให้ซูริคเป็นหนึ่งใน 25 เมืองที่น่าอยู่อาศัยมากที่สุด และจากหลายผลการสำรวจตั้งแต่ปี 2006 ถึง 2008 ยังได้จัดอันดับให้ซูริคเป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตประชากรดีที่สุดของโลกและเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในสหภาพยุโรป



St. Peterskirche zürich


ในเมืองซูริคยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง รวมถึงพิพิธภัณฑ์แห่งชาติของสวิตเซอร์แลนด์ด้วย














เราเดินชมความงามยามค่ำคืนในนครซูริค ท่ามกลางการประดับประดาไฟคล้ายๆดวงดาวตามถนนต่างๆที่เราผ่านไป เช่น Lowenstrasse, Lintheschergasse และ Bahnhofstrasse ซึ่งถนนเหล่านี้เต็มไปด้วยร้านค้าที่ขายของระดับแบรนด์เนมทั้งนั้น

ซูริค มีอะไรมากมายให้เราได้เที่ยว แต่เรายังมีโปรแกรมที่จะไปเที่ยวต่อเมืองอื่นๆอีก เราจึงจำเป็นต้องลาเมืองซูริคเพื่อเดินทางไปยังเมือง St. Gallen และ Luzern ในวันพรุ่งนี้.





ปล. สถานีรถไฟ Zurich HB SZU เป็นสถานีที่ใหญ่มาก เวลาไปขึ้นรถต้องเผื่อเวลาด้วยนะครับ ชานชาลา หรือ Platform มีเป็นจำนวนมาก จึงต้องเผื่อเวลาเดินทางไปยังแต่ละชานชาลาครับ.


💘💘ขอบคุณที่ตามอ่าน แล้วเจอกันใหม่ในบล๊อกต่อไป💘💘



ลาด้วยภาพรถรางหน้าสถานีรถไฟซูริค


💘💘💘💘






ไม่มีความคิดเห็น: