2 กุมภาพันธุ์ 2556
เรานึกอยากจะไปดูดอกซากุระ (นางพญาเสือโคร่ง) ที่ภูลมโลกัน จัดแจงนัดกันได้รถ 2 คัน
ปิกอัพวีโก้ 4x4 กับรถเราคือ Honda CRV รุ่นปี 2002 กับคนชอบเดินทางอีก 5 คน
จัดแจงหาข้อมูลและเบอร์โทร์ติดต่อ โดยเฉพาะ ท่านนายก อบต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย
ได้ทิศทางแล้วก็ออกจากบ้านพักที่ จ.ขอนแก่น ตั้งแต่เช้า 8.30 น. เดินทางผ่าน
อช.น้ำหนาว สู่ อ.หล่มสัก และเตรียมเสบียงกันที่บิ๊กซีหล่มสักกัน
สีสันของขนมจีน
เดินทางออกจากหล่มสักไป อ.หล่มเก่า ซึ่งระยะทางห่างกันเพียง 12 กม.เอง (ถือว่าเป็นอำเภอที่ต่างจังหวัดที่ใกล้กันมากๆ) เวลาเกือบเที่ยง ท้องหิว เลยนัดแนะกันไปหาขนมจีนหล่มเก่าของแท้ๆทานกัน ร้านแรกที่เราเจอก่อนเข้าหล่มเก่า คือร้าน "ขนมจีนเจ็ดสี" อยู่ตรงหน้า รพ.สมเด็จพระยุพราชหล่มเก่า
ตามด้วย หมูปิ้ง น้ำยาสามอย่าง ไข่ต้ม
ด้านบนพวกหมูปิ้ง หมูอะไรซักอย่าง (ที่ห่อใบตอง จำชื่อไม่ได้) ไข่ต้ม ถ้าทานไม่หมดคืนได้นะครับ....สีสันขนมจีนสดใสซาบซ่าจริงๆ ร้านนี้กว้างขวาง มีที่จอดรถมากพอควร ดูท่าทางแขกจะเยอะเหมือนกัน เพราะเห็นเข้าๆออกๆกันหลายกลุ่ม .... ส่วนน้ำยา ก็อย่างเคยครับมีตักใส่ชามเคลือบมา 3 อย่าง คือ น้ายา น้ำพริก และน้ำยาป่า ส่วนผักก็ไปเลือกเอาเองว่าชอบแบบไหน....เราทานขนมจีนในจานเท่าที่เห็นหมดไป 2 จาน รวมทั้งอาหารในภาพจนหมด พร้อมน้ำโค๊กและน้ำเปล่าด้วย หมดไป 402 บาท แม่ค้าลดให้ 2 บาท เลยเหลือ 400 บาทถ้วน.
ผักเคียง..ไปเลือกเอาเอง
ท้องอิ่มเราก็เดินทางต่อ...จากข้อมูลที่โทรถามท่าน นายก อบต.กกสะทอนเมื่อคืนนี้บอกว่า ออกจากหล่มเก่าไปทางด่านซ้าย "ให้สังเกตุหลักกิโลเมตรที่บอกว่า ไปด่านซ้ายอีก 27 กม. แล้วเลี้ยวซ้าย" เราไปตามมั้น ตรงที่บอกเป็นสามแยกใหญ่พอควร มีป้ายบอกว่าไปบ้านห้วยมุ่น (ถ้าจำไม่ผิด) ถนนเป็นถนนลาดยาง (แบบมีหลุม มีบ่อ) จากปากทาง 203 ผ่านบ้านห้วยมุ่นเข้าที่ ต.กกสะทอน 13 กม. ครับ
เส้นทางที่จะไปภูลมโล (แบบของเรา)
ก่อนถึงที่ทำการ อบต. และศูนย์ กศน.
ซึ่งพัฒนามาเป็นศูนย์ประสานงานส่งเสริมการการท่องเที่ยว คุณๆให้มองไปทางซ้ายมือ
หรือทิศตะวันตก จะเห็นเขาสูงตั้งตระหง่านอยู่ ตรงนั่นแหละที่เราจะไป
ตรงนั้นแหละ..ภูลมโล
ศูนย์ประสานงานส่งเสริมการการท่องเที่ยว ชุมชนกกสะทอน (ปัจจุบันเปลี่ยนมาอยู่อีกที่ ก่อนถึง อบต.)
ส่วนคุณๆที่จะขับขึ้นไปเอง ต้องแน่ใจว่ารถอยู่ในสภาพดี ถ้าเป็น SUV, ปิกอัพ ก็สูงๆหน่อย ส่วนกะบะ 4x4 ไปสบาย
เส้นทางส่วนมากจะเป็นแบบนี้
ใกล้ๆแปลงปลูกนางพญาเสือโคร่งจะเป็นเขาหัวโล้น
นางพญาเสือโคร่ง
นางพญาเสือโคร่ง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Prunus cerasoides, อังกฤษ: Wild Himalayan Cherry) เป็นพืชดอกในสกุล Prunus ออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์ พบทั่วไปบนดอยสูง เช่น ภูลมโล จังหวัดเลย, ดอยแม่สะลอง จังหวัดเชียงราย, ดอยเวียงแหง ขุนช่างเคี่ยน ขุนแม่ยะ จังหวัดเชียงใหม่, ขุนสถาน ดอยวาว ดอยภูคา และมณีพฤกษ์ จังหวัดน่าน โดยเป็นดอกไม้ประจำอำเภอเวียงแหง นางพญาเสือโคร่ง เป็นพรรณไม้ที่มีการกระจายพันธุ์ตามธรรมชาติอยู่ที่ตอนเหนือของประเทศไทย ทางตอนใต้ของประเทศจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน และถูกนิยมเรียกว่า"ซากุระเมืองไทย" เพราะมีลักษณะคล้ายซากุระ แม้จะเป็นคนละชนิดกันก็ตาม
ผลของนางพญาเสือโคร่งสามารถนำมารับประทานได้ มีรสเปรี้ยว ส่วนเนื้อไม้และการใช้ประโยชน์ ด้านอื่นยังไม่มีการบันทึกข้อมูลไว้ นอกจากการนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ เนื่องจากมีดอกสวยงาม
ทุ่งดอกซากุระหรือพญาเสือโคร่ง
เดิมนั้นเป็นพื้นที่ปลูกกระหล่ำปีของชาวม้ง ต่อมา ทางอุทยานฯ ต้องการให้ชาวม้งออกจากเขตพื้นที่ จึงได้ตกลงกับชาวม้งให้ปลูกพญาเสือโคร่งสลับกับการปลูกกระหล่ำปลีและต้องออก จากพื้นที่อุทยานในระยะเวลา 3 ปี เป็นการแลกแลกเปลี่ยน จนมา ปี 2550 บนภูลมโลเต็มไปด้วยพญาเสือโคร่งเป็นทุ่งซากุระบนพื้นที่1,200 ไร่กว่า 1 แสนต้น
จากการเป็นพื้นที่ที่อุทยานฯ ตั้งอยู่ในเขตภาคเหนือแต่มีพื้นที่คาบเกี่ยวกับจังหวัดเลย โดยเฉพาะภูลมโลอยู่ในเขตจังหวัดเลยทั้งหมด โดยฤดูกาลท่องเที่ยวนี้คือขึ้นภูเดียว ชม 3 ภู 3 จังหวัด ได้แก่ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณื ภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก ภูขี้เถ้า จ.เลย โดยมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และมากางเต็นท์นอนท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นอุณภูมิต่ำกว่า 10 องศา ดอกซากุระ (พญาเสือโคร่ง) ช่วงนี้ได้เบ่งบานออกดอกสีชมพูสด นักท่องเที่ยวจะชมดอกซากุระแบบทั่วทุ่งภูลมโล ต้องประมาณปลายเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ซึ้งเป็นช่วงที่ดอกซากุระจะบานทั่วเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์
ที่มา : http://touronthai.com
ดอกนางพญาเสือโคร่ง
ในระหว่างทางที่ไปสู่จุดชมวิวและที่กางเต้นท์ จะมีแปลงปลูกนางพญาเสือโคร่งหลายแปลง ซึ่งบนต้นยังมีดอกสีชมพูบานอยู่ แต่ดอกไม่โตนัก เห็นเจ้าหน้าที่บอกว่าช่วง 2-3 วันก่อนที่เราจะมา มีฝนตก ทำให้ดอกร่วงจนเกือบหมด (ปกติเขาจะบานอยู่ประมาณ 2 อาทิตย์) ..... ส่วนแปลงใหญ่ใกล้ที่กางเต้นท์ ออกใบสีเขียวอ่อนไปหมดแล้ว คือเราช้าไปหลายวัน
พื้นที่ภูลมโล เป็นภูเขาสูงตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า สูงจากระดับน้ำทะเล 1,664 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จุดยอดมีก้อนหินขนาดใหญ่ สามารถยืนชมทัศนียภาพของเทือกเขาสูงซ้อนทับกันสวยงาม และมองเห็นหมู่บ้านหมันขาว และไร่กระหล่ำปลีสีเขียวกว้างใหญ่ สามารถกางเตนท์นอนพักแรมชมทะเลหมอกปกคลุมผืนป่าเชิงภูลมโล ในช่วงฤดูฝนและหนาวสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัย แนะนำว่าต้องเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ต้องการสูดอากาศบริสุทธิ์ จุดกางเต็นท์นอนสามารถดูดาวบนฟ้า และดาวบนดินแสงไฟจากหมู่บ้านข้างล่างได้อย่างชัดเจน
ท่ามกลางทะเลหมอกปกคลุมทั่วขุนเขา เรียนรู้วิถีชีวิตแบบอย่างการอยู่ร่วมกันระหว่างชาวบ้านกกสะทอนและชาวเผ่าม้ง เยี่ยมชมผลผลิตข้าวไร่ และสินค้าเกษตรคุณภาพดี กางเต็นท์พักนอนดูดาวท้าทายความหนาวธารพายุลม ชมทุ่งซากุระสีชมพูบานทั่วภู ช่วงกลางเดือนมกราคม ถึง กลางเดือนกุมภาพันธ์
ที่มา : http://touronthai.com
จุดกางเต้นท์
ที่กางเต้นท์ เจ้าหน้าที่ล้อมรั้วไม้ไผ่เอาไว้
คงกลัววัวเข้าไปกินหญ้าและถ่ายมูลไว้ในนั้น
(บนภูมีวัวที่ชาวเขาเอาไปปล่อยเลี้ยงไว้เยอะมาก) .... ณ
บริเวณนั้นเป็นเนินเขาสูงอีกลูกที่สามารถมองออกไปได้รอบด้าน เห็นยอดภูทับเบิก
ภูขี้เถ้า และยอดภูลมโล ซึ่งบนยอดภูลมโลเป็นสนามบินเก่า
ที่เราต้องเดินเท้าจากที่จอดรถขึ้นไปอีกประมาณ 1 กม.
คุยกับเจ้าหน้าที่เขาบอกว่าจะพัฒนาเป็นที่ท่องเที่ยวต่อไป
ส่วนการปลูกนางพญาเสือโคร่งเขาก็จะปลูกไปเรื่อยๆครับ
เขาอีกลูกด้านตะวันตกเป็นไร่กะหล่ำของชาวบ้าน
อาทิตย์ใกล้อัสดง
เขาด้านหลังหนุ่มน้อยคนนนี้ คือ ภูลมโล
แสงสุดท้ายของวันที่ภูลมโล
คืนนั้นที่ภูลมโลอากาศเย็นพอประมาณ หกโมงกว่าๆก็ได้การแล้ว อุณหภูมิลดต่ำกว่า 20 องศามาเรื่อยๆ สามทุ่มก็เหลือ 14 องศาแล้ว น้ำค้างเยอะมากๆ ตอนตื่นขึ้นมากลางดึก มองเห็นพระจันทร์ทรงกลดเลยล่ะ (นี่คงเป็นเพราะหมอก) คืนทั้งคืนสัมผัสความหนาวเย็นแบบธรรมชาติ แม้ร่างกายจะเติมดีกรีไว้ตั้งเยอะ แต่ก็ยังรู้สึกหนาวอยู่ดี.
วันนี้เราจึงได้ฝ่าทั้งลมหนาว เคล้าทั้งหมอก และชมดอกซากุระด้วย นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไม่ไกลจากกรุงเทพฯอีกแห่งที่จะต้องต้อนรบนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
เช้าตรู่ที่ภูลมโล
เรามีเวลาอยู่ดื่มด่ำสัมผัสธรรมชาติที่ภูลมโลน้อยไปนิดหนึ่ง เพราะต้องอำลาจากที่นั่นตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า ซึ่งพระอาทิตย์ยังไม่พ้นขอบเขาขึ้นมาเลย... แม้จะอยากอยู่ต่อ แต่เจ้าลูกชายสุดเลิฟต้องกลับไปเรียนที่ กทม.และจองรถไว้เที่ยวบ่ายสามโมง เราจึงต้องรีบกลับลงสู่พื้นราบและกลับขอนแก่นตั้งแต่ 7.00 น.
ด้านล่างที่เห็น คือบ้านหมันขาว
การเข้าไปท่องเที่ยวในท่ามกลางธรรมชาติ
มีสิ่งหนึ่งที่เราจะต้องช่วยกัน คือรักษาธรรมชาติเอาไว้ให้เหมือนเดิมที่สุด
เหมือนก่อนที่เราจะเข้าไป การรักษาความสะอาดจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
สิ่งของที่เราเอาเข้าไป จึงต้องเอาออกมาด้วย อย่าให้เหลือเป็นส่วนเกินของที่นั่น
เมื่อเรารักธรรมชาติ ธรรมชาติก็จะให้ความสุขแก่เราเช่นกันครับ
การเดินทาง
1. จากกรุงเทพฯ ผ่านสระบุรี ลพบุรี เพชรบูรณ์ หล่มสัก หล่มเก่า ต่อไปทางด่านซ้ายตามทางหลวงหมายเลข 203 ก่อนถึงด่านซ้าย 27 กม. เลี้ยวซ้ายไปทางบ้านห้วยมุ่น และ อบต.กกสะทอน ระยะทาง 13 กม. จาก อบต.กกสะทอนไปถึงจุดกางเต้นท์ภูลมโลอีก 25 กม. (แนะนำ)
หรือ 2. จากภูทับเบิก เข้าบ้านทับเบิก บ้านหมันขาว และภูลมโล ทางนี้ก็ไปได้ รถต้องดีหน่อย
หรือ 3. จากทางแยกภูทับเบิก (มาจากทางหล่มสัก/หล่มเก่า ขึ้นเขามาแล้ว) ขับเลยไปทางที่ทำการภูหินร่องกล้า พอถึงสามแยกให้เลี้ยวขวาเข้าบ้านใหม่ร่องกล่้า ผ่านไปภูลมโล (ทางขึ้นชันหน่อย)
หรือ 4. จาก อช.ภูหินร่องกล้าขับมาทางภูทับเบิก แต่ตรงเข้าบ้านใหม่ร่องกล้า ผ่านไปภูลมโล
ติดต่อสอบถาม : นายก อบต.กกสะทอน 081-768 2453
ททท.เลย 042-812 812, 042-811 480
ลากันด้วยภาพดอกซากุระเมืองไทยเหล่านี้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น