บล๊อกนี้จะพาคุณๆไปนั่งเรือค้ำถ่อ หรือ Punting ในแม่น้ำแคม เมืองเคมบริดจ์ เพื่อชมบรรยการริมแม่น้ำกันครับ ต้องบอกก่อนนะครับว่าบล๊อกนี้เน้นล่องเรืออย่างเดียว ส่วนการเที่ยวชมเมืองเคมบริดจ์กดไปตามลิงค์ได้เลยครับ เพราะเคยทำรีวิวไว้เมื่อครั้งมาขับรถเที่ยวอังกฤษในเดือนกรฎาคม 2016 ในช่วงหน้าร้อน .... บล๊อกนี้เป็นการเดินทางมาเคมบริดจ์อีกครั้ง แต่เป็นช่วงหน้าหนาว อากาศหนาว และค่ำเร็วกว่าปกติครับ
วันที่ 7 ธันวาคม 2017 เราขับรถออกจากเมืองนิวคาสเซิ่ลในช่วงเช้า ลงมาทางใต้ใกล้ๆกรุงลอนดอนเพื่อจะมาเที่ยวเมืองเคมบริดจ์กัน ระยะทางประมาณ 232 ไมล์ใช้เวลา 4 ชั่วโมงครึ่ง ทางหลวงในประเทศอังกฤษสะดวกมาก รถไม่ติด (โดยเฉพาะรอบนอกลอนดอน) ใช้ความเร็วสูงสุดที่ 70 ไมล์ หรือ 113 กม. ในเส้นทางหลัก ... วันนี้เราจองที่พักเป็นห้อง family ไว้ที่ Ashly Hotel, 74 Chesterton Road, Cambridge, CB4 1ER, UK. (ตั้ง GPS ตามนั้นได้เลย) ที่นี่อยู่ติดถนนใหญ่ สะดวกสำหรับการเดินทางต่อไปที่ต่างๆ .... เมื่อเอารถเข้าจอดที่โรงแรมและทำการเช็คอินเสร็จ ก็เป็นเวลาเที่ยงเศษๆ เตรียมตวเข้าเมืองกันเลย
แผนที่เคมบริดจ์และเส้นทางล่องเรือจาก The Punt Yard - Cambridge Chauffeur Punts - The Punt Yard. (คลิ๊กที่ภาพเพื่อดูภาพใหญ่ขึ้น)
เดินจากที่พักตามถนน Chesterton Rd ข้ามสะพาน Jesus Lock Footbridge แล้วผ่านอุทยาน หรือสวนเข้าตัวเมือง จากที่พักถึงกลางเมือง ก็ประมาณ 1.2 ไมล์ เดินเล่นๆฝ่าอากาศหนาวไปเรื่อยๆ เข้าถึง City Center ได้ก็เดินโน่น ชมนี่ ถ่ายภาพไปเรื่อยตามถนน Sidney St ไปต่อเข้ากับ Bridge St ... ถนนที่นี่แม้จะไปทางเดียวกัน แต่พอผ่านแยก หรือวงเวียนชื่อกับเรียกต่างไปอีกชื่อ เหมือน 2 ถนนที่ผ่านมา ... ปลายถนนบริดจ์สตรีท ก็จะเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแคมล่ะ เป้าหมายเราคือตรงนั้น
ข้าม Jesus Lock Footbridge เพื่อเดินผ่านสวนเข้าสู่ใจกลางเมือง
ผ่านอุทยาน Jesus Green
ก่อนจะไปนั่งเรือชมเมืองตามฝั่งแม่น้ำแคม (Cam River) มารู้จักเมืองนี้กันซักหน่อยนะครับ
เมืองเคมบริดจ์ (Cambridge)
เคมบริดจ์ (Cambridge) เป็นเมืองมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ในอังกฤษ สหราชอาณาจักร และเป็นศูนย์กลางการปกครองของเคมบริดจ์เชียร์ เมืองอยู่ห่างจากลอนดอนไปทางเหนือ-ตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ 80 กม. และห้อมล้อมไปด้วยเมืองและหมู่บ้านขนาดเล็กจำนวนหนึ่ง เมืองนี้ยังเป็นหัวใจของศูนย์เทคโนโลยีชั้นสูง ที่รู้จักกันในชื่อ ซิลิคอนเฟน (Silicon Fen) และเป็นส่วนสำคัญของเขตอุตสาหกรรมความรู้ ออกซ์ฟอร์ด-เคมบริดจ์อาร์ก (Oxford-Cambridge Arc)
เมืองเคมบริดจ์เป็นที่รู้จักมากที่สุดจากการเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์
จากการสำรวจสำมะโนประชากร เมื่อปี ค.ศ. 2001 มีประชากร 108,863 คน (รวมนักเรียน 22,153 คน)
เคมบริดจ์ นับว่าเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ทั้งในการเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษาและความโดดเด่นของพื้นที่และบรรยากาศโดยรอบ ชื่อของเคมบริดจ์ทำให้หลายคนนึกถึงภาพที่สวยงามตระการตามากมาย ทั้งเทือกเขาแบ็กส์ ซึ่งปูลาดด้วยผืนพรมดอกไม้ของฤดูใบไม้ผลิ คิงส์ คอลเลจ แชฟเพิลการนั่งเรือค้ำถ่อในแม่น้ำแคมและที่ขาดเสียมิได้คือความเงียบสงบของอาคารเรียนโบราณรวมถึงสถานที่ท่องเที่ยว พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ร้าน อาหารและผับซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากในเมืองเคมบริดจ์เนื่องจากที่ตั้งซึ่งอยู่ตรงใจกลางของอีสท์ แตงเกลียจึงทำให้เมืองแห่งประวัติศาสตร์แห่งนี้สามารถเดินทางได้สะดวกทั้งทางรถไฟ เครื่องบิน มอเตอร์เวย์และถนนสี่เลน และยังสามารถเดินทางเข้าสู่ลอนดอน มิดแลนด์และทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษได้อย่างสะดวก
เคมบริดจ์ ประกอบด้วยถนนสายต่าง ๆ ที่คดเคี้ยวและผลงานสถาปัตยกรรมที่งดงามมีอะไรมากมายให้ค้นหาตลอดทั้งปี สามารถเลือกท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับหรือจะพักเป็นระยะเวลานานหรือจะมาพักผ่อนช่วงวันหยุดสุดสัปหาด์ก็ได้เคมบริดจ์ นับเป็นศูนย์กลางสำหรับการออกไปท่องเที่ยวในพื้นที่เขตชนบทโดยรอบ และสามารถเดินทางโดยทางรถยนต์ไปยัง เมืองอีลี่ ได้อย่างสะดวก เพื่อเยี่ยมชมมหาวิหารที่เป็นที่รู้จักกันว่าเป็น “Ship of the Fens” หรือเป็นเรือท่ามกลางหนองน้ำ หรือเมืองนิวมาร์เก็ตที่ตั้งอยู่ออกไปไม่ไกลนักและเป็นต้นกำเนิดของกีฬาขี่ม้าของอังกฤษ
ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะที่สุดสำหรับการผ่อนคลายคือการนั่งเรือค้ำถ่อในแม่น้ำแคม การช็อปปิ้ง ชิมไวน์หรือจะแค่ผ่อนคลายในผับของหมู่บ้านทั้งหมดนี้ล้วนเป็นตัวอย่างความรื่นรมย์ที่คุณจะหาได้จากที่นี่ นอกจากนั้นเมืองเคมบริดจ์ยังคงรักษาบรรยากาศความเป็นเมืองสำคัญในอดีต แม้ว่าจะมีชื่อเสียงไปทั่วโลกแล้วก็ตาม นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสบรรยากาศเหล่านั้นได้จากการเดินชมเมืองพร้อมไกด์นำทางที่มีความเชี่ยวชาญซึ่งมีชื่อเรียกว่า Blue Badge Guide Smiley
The Round Church
👉ถึง Punting Yard เราไปซื้อตั๋ว ใบละ 9 ปอนด์ (ถ้าจำไม่ผิด) 3 ใบ แล้วคนขายก็จะนัดเวลาเรามาเจอกันกี่โมง เพราะเขาต้องรวบรวมคนให้พอดีกับเรือที่พาล่องไปครับ ..... เรามีเวลาเหลืออีกพอควร เลยแวะทานข้าว ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยอยู่ใกล้ๆกับ Punting yard นั่นแหละ ชื่อว่าร้าน Thaikhun (ชื่อแปลกๆ) ซึ่งเขียนป้ายด้านหน้าว่าลด 20% และว่าเป็นแบบ Street food .... ของชอบ ถ้าลดราคาน่ะ
เราเข้าไปนั่งสั่งอาหารพวกผัดกระเพรา ต้มยำ ไข่เจียว ซึ่งไม่ได้กินกันมานานหลายวันแล้ว ตั้งแต่โน่นเลยในยุโรปจนมาถึงอังกฤษ อาหารรสชาติก็ใช้ได้เลยนะครับ ราคาก็พอไหว ทานข้าวเสร็จได้คุยกับเจ้าของร้านหน่อยหนึ่ง ซึ่งเขาก็เป็นวัยหนุ่มสาว น่าจะ 30 ต้นๆ เธอบอกว่า กุ๊กมาจากเมืองไทย และถามเราว่าเราอยากคุยด้วยไหม เราบอกว่าไม่ต้องหรอก แล้วพวกของตกแต่งเธอก็บอกว่าลงเรือมาจากเมืองไทยเช่นกัน มีหลายอย่างมาก ... สรุปว่าใช้ได้ครับ
ร้านอาหารไทยอยู่ติดกับ punting yard
Punting Yard
เดินไปลงเรืที่เกือบปลายสะพาน
เสร็จจากมื้อเที่ยง (แต่บ่ายแก่ๆ) เราก็ไปลงเรือตามที่เขานัด มีผู้หญิงแม่ลูกเชื้อชาติอินเดีย (แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นชาวอังกฤษไหม เพราะที่อังกฤษคนเชื้อชาติอินเดียเยอะมาก) ไปด้วย รวมกับเราแล้วเป็น 5 คน ได้คนถ่อเรือและไกด์ด้วย เป็นหนุ่มน้อย (เขาว่าพวกคนถ่อเรือก็เป็นนักศึกษาที่กำลังเรียนในเคมบริดจ์นั่นแหละครับ แต่ไม่ได้ถามเขาว่าใช่ไหม) ... พอเรือออกเจ้าหนุ่มก็แนะนำตัว ว่าชื่ออะไร จะพาเราทัวร์ใช้เวลาประมาณ 45 นาที และกลับมาขึ้นฝั่งที่เดิม
หนุ่มน้อยนั้นถ่อเรือไป อธิบายถึงตึกรามบ้านช่องที่ผ่าน ซึ่งส่วนมากเป็น College ใน Cambridge นั่นและ ที่สำคัญๆก็มี St. John's College, The Trinity College, King's College, Queens' Collage เป็นต้น อย่างที่ St John's College ก็มีนี่เลย Bridge of Sighs ที่ทำเชื่อมตึกข้ามแม่น้ำแคม King's College ก็มี Chapel ที่สวยงามมีชื่อเสียงให้ชม ส่วนอีกที่ๆสำคัญคือ Queens' College จะมี Mathematical Bridge ที่ เซอร์ไอแซก นิวตัน สร้างไว้โดยไม่ใช้ตาปู แต่มีนักศึกษาอยากรู้อยากเข้าใจเลยรื้อและประกอบกลับไม่ได้ จึงตรึงไว้ใหม่ด้วยตาปูอย่างที่เห็นในปัจจุบัน และยังมีเรื่องราวอีกมามายที่เจ้าหนุ่มเล่าให้ฟัง รวมทั้งต้นแอบเปิ้ลที่เซอร์ไอแซก นิวตัน คิดแรงโน้มถ่วงโลกที่ Trinity College ได้รวมอยู่ด้วย
มาลงเรือบริเวณนี้
เรือค้ำถ่อ หรือ Punting
Bridge of Sighs ใน St. John College
King's College Chapel จากแม่น้ำแคม
ด้านหลัง King's College ตึกขวามือคือหอพัก (ถ่ายจากเรือ)
Mathematical Bridge หลัง Queen's College (ภาพที่เห็นสะพานใช้ตาปูยึดแล้ว)
ด้านหน้า King's College
King's College Chapel
รอบๆ College จะมีจักรยานจอดกันมากมาย
Great St. Mary Cathedral หน้า King's College (ถ่ายเดือน กรกฎาคม 2016)
การนั่งเรือถ่อชมเมือง ซึ่งส่วนมากเป็นวิทยาลัยต่างๆของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ได้ไปจนถึง Cambridge Chauffeur Punts เลยสะพาน Mathematical Bridge ไปหน่อย ก็วนเรือกลับทางเดิม .... บนเรือในหน้าหนาว เขาจะมีผ้าไว้ให้ห่มด้วยนะครับ ใครไม่ไหวก็ห่มผ้าด้วย จะว่าไปแล้วบนแม่น้ำแคม (แม่น้ำเล็กๆที่ไหลผ่านเมืองเคมบริดจ์) ก็เพลิดเพลินดีเหมือนกัน ถ้าตั้งใจฟังพ่อหนุ่มถ่อเรือก็จะได้ความรู้ไปด้วยนอกเหนือจากการได้ชมภาพสวยๆงามๆ บรรยากาศร่มรื่น ตลอดเวลาที่ไปกลับครับ .... ขึ้นจากเรือเราก็ไปเดินต่อในเมือง แถวๆวิหาร St Mary หน้า King's College เรื่อยไปจนถึงสะพานคณิตศาสตร์อีกรอบ แวะซื้อของฝากจากศูนย์การค้า และทานมื้อเย็นเป็นอาหารญี่ปุ่น ก่อนเดินกลับที่พัก
💘💘ขอบคุณที่ตามอ่านครับ💘💘
ลาด้วยภาพจากอุทยาน Jesus Green ในยามเย็นครับ
________________
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น