วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ขับรถเที่ยวอังกฤษหน้าหนาว 5 .... เที่ยวเมืองอ๊อกฟอร์ด และเดินทางต่อไปชมบ้านเชกสเปียร์



กลับมาอีกครั้งครับสำหรับการขับรถเที่ยวในอังกฤษในหน้าหนาว ซึ่งบล๊อกที่แล้วเดินทางมาถึงเมืองเครมบริดจ์ ทางเหนือของกรุงลอนดอน ซึ่งเมืองนี้เป็นเมืองที่มีมหาวิทยาลัยระดับท้อปของโลกคือ มหาวิทยาลัยเครมบริดจ์ ซึ่งครังนี้เราไปนั่งเรือค้ำถ่อ บนแม่น้ำแคมเพื่อชมเมืองกัน และพักค้างคืนที่โรงแรมในเครมบริดจ์นั่นเอง.... หลังอาหารเช้าของวันที่ 8 ธันวาคม 2018 เราก็ขับออกไปที่เมืองอ๊อกฟอร์ดซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงลอนดอน ตามเส้นทาง A428 และ A421 ระยะทาง 84 ไมล์ ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ในระหว่าเดินทางอากาศดี แม้อุณหภูมิจะต่ำกว่า 10 องศาก็ตาม






ถึงชานเมืองอ๊อกฟอร์ด เราเอารถไปจอดไว้ที่ Park & Ride แล้วซื้อตั๋วรถโดยสารเข้าไปที่ย่านใจกลางเมือง ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด เพราะสถานที่จอดรถในอ๊อกฟอร์ดหายากมาก และถ้ามีก็เสียค่าจอดค่อนข้างแพง .... หลังจอดรถเสร็จเหมือนว่าหิมะจะเริ่มลงเบาๆแล้ว แต่หลังจากเดินทางเข้าเมืองแล้วก็ไม่เจอหิมะอีกเลย.




เป้าหมายเราคือเดินชมภายในมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด ซึ่งก็รวมถึงวิทยาลัยต่างๆในอ๊อกฟอร์ดนั่นแหละครับ...เรามาถึงอ๊อกฟอร์ดเกือบ 11 โมงเช้า สิ่งแรกที่เราจะต้องทำ คือ หาที่เติมพลังก่อน เนื่องจากเราไม่ทานอาหารไทยมาหลายมื้อแล้ว เลยพาคุณภรรยาไปทานอาหารไทยที่ร้านครัวเชียงใหม่ ร้านก็อยู่กลางเมืองนั่นแหละครับ เลขที่ 130A, High St. คราวก่อนที่มาส่งลูกชาย เราก็พากันมานั่งทานที่นี่ พวกเบียร์เขาขายเฉพาะของไทยนะครับ ยี่ห้อสัตว์ใหญ่ๆนั้นมีขายหมดครับ แต่วันนี้เราไม่ดื่ม เพราะต้องขับต่อเพื่อไปนอนที่เมือง Stratford upon Avon .... ในอ๊อกฟอร์ดนี้มีร้านอาหารไทยอยู่หลายร้านครับ ประมาณว่า 8 ร้านประมาณนั้น

หลังมื้อเที่ยงเป็นอาหารไทยแบบง่ายๆ เราก็ออกเดินเข้าชมบริเวณมหาวิทยาลัยกัน

ทางเข้าร้านอาหารครัวเชียงใหม่




เมืองอ๊อกซฟอร์ด (Oxford) 

เป็นนครและเมืองหลวงของมณฑลอ๊อกซฟอร์ดเชอร์ของภาคตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ ที่มีประชาชนราว 151,000 คน แม่น้ำเชอร์เวลล์และแม่น้ำเทมส์บรรจบ กันทางใต้ของตัวเมืองใต้ใจกลางเมือง บริเวณที่เป็นระยะทางราว 10 กิโลเมตรในบริเวณตัวเมืองอ๊อกซฟอร์ดริมฝั่งแม่น้ำเทมส์รู้จักกันว่า “ไอซิส” (The Isis)




มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด คนไทยรู้จักกันดีว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากของ อังกฤษ นักท่องเที่ยวจึงเน้นที่จะไปเดินเที่ยวในมหาวิทยาลัย และอาคารเรียนเก่าแก่ของออกซ์ฟอร์ด พร้อมกับชมวิทยาลัยเก่าแก่ของเมืองคือ Christchurch College ที่โด่งดัง เพราะในห้องโถงหรือ Great Hall ถูกนำไปเป็นต้นแบบของห้องโถงใหญ่ของโรงเรียน Hogwarts ในหนังสือและภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter ... Radcliffe Camera และ Bridge of Sighs ก็เป็นสองที่ที่นักท่องเที่ยวไม่พลาดที่จะไปเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกครับ




Radcliffe Camera



Bridge of Sighs in Oxford









🚗ได้เวลาพอสมควร เราก็กลับไปขึ้นรถบัสเพื่อกลับไปที่ที่เราจอดรถไว้ (ไม่ต้องเสีนค่าจอด) เพื่อเดินทางต่อไปเมืองบ้านเกิดของ William Shakespeare ที่เมือง Stratford Upon Avon  ซึ่งอยู่เหนือขึ้นไปอีก 53 ไมล์ ต้องขับประมาณ 1 ชั่วโมง ... บริเวณที่เราจอดรถไว้ ขากลับออกมาหิมะปกคลุมขาวไปหมดแล้ว ถามคนอังกฤษเขาบอกว่าไม่ค่อยจะเจอ แต่ปีนี้มาเร็วมาก การขับช่วงต่อไปจึงต้องระวังให้มากกว่าเดิม แต่ดีที่ว่าเส้นทางที่เราจะไปเป็นมอเตอร์เวย์ M40 ตลอดทาง .... วันนี้เรามีแพลนที่จะพักที่ The Hathaways, 35 Evesham Place, Stratford upon Avon ซึ่งก็อยู่ใกล้ๆกลางเมือง หรือบ้านเชคส์เปียร์นั่นเอง🚗






💘💘💘💘





STRATFORD UPON AVON

ขับไปถึงที่พักก็เป็นเวลา 4 โมงกว่าๆ รถรากำลังเยอะ ผู้คนกำลังจะกลับบ้านกัน ปัญหาคือที่เราจองโรงแรมไว้ (เป็นเหมือนโฮมสเตย์มากกกว่า) บอกว่ามีที่จอดรถ แต่เราพยามวนหาที่จอดอยู่นานก็ไม่ได้ จนพอเจอที่ว่างที่ร้านซูปเปอร์สโตร์ เราก็โทรไปติดต่อไปติดต่อ เธอบอกว่าอยู่หน้าที่พักนั่นแหละ และเธอเอารถเธอไปจอดบล๊อกไว้ เราจึงวนเข้ามาอีกกว่าจะเข้าจอดที่จอดสาธารณะที่อีกฟากถนน ก็เล่นเอาเหนื่อยมากๆ นี่ขนาดระบุไว้ในวันที่จองว่าต้องการที่จอดรถ และเลือกโรงแรมแล้วนะนั่น .... เอาเถอะอยากได้ของไม่แพง ก็ต้องแบบนี้แหละ นอกจากจะจองโรงแรมประเภท 4-5 ดาว  

จอดเสร็จก็ถามเจ้าของที่พักอีกว่าเราต้องจอดข้ามคืนนะ จอดได้แน่นะ เธอว่าตรงนั้นจอดได้ไม่มีปัญหา (แต่เราเห็นว่าเป็นที่จอดส่งผู้โดยสารของรถประจำทางด้วย..) สรุปแล้วจนถึงเวลาเราออก ก็ไม่มีปัญหาจริงๆ

ที่พักใน Stratford upon Avon คืนนี้


บนถนน Henley St ในยามค่ำ

เก็บของเข้าห้องพักเรียบร้อย เราถือโอกาสออกไปเดินในย่านบ้านพักของวิลเลี่ยม เชกสเปียร์ ซึ่งช่วงนี้กำลังใกล้เทศกาลคริตส์มาส บนถนนตกแต่งสวยงาม มีการออกร้านบนถนน มีของที่ระลึกและอาหารขายคล้ายๆงานในบ้านเรา แถมยังมีเครื่องเล่นของเด็ก เช่นม้าหมุนมาให้บริการด้วย แต่อากาศนี่สิหนาวได้ใจเลย .... เดินได้ซักชั่วโมง ก็เจอหิมะตกลงมาหนักมาก เลยต้องเดินจ้ำอ้าวกลับที่พัก ที่อยู่ห่างจากบ้านเชกสเปียร์ ประมาณ 1 กม.


ช่วงค่ำคืนที่หนาวเหน็บ มีนักศึกษาออกมาร้องเพลงที่หน้าบ้านเชกสเปียร์


หิมะที่กำลังลงหนักที่ถนน Henley St


สแทรตฟอร์อะพอนเอวอน เมืองที่ชื่อยาวเหยียดนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเอวอน หรือปัจจุบันก็คือเมืองที่มีแม่น้ำเอวอนไหลผ่าน เมืองนี้อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงลอนดอน ไปประมาณ 163 กม. หรือ 101 ไมล์ อยู่ในแคว้นวอวิคเชอร์ (Warwickshire) ... สแทรตฟอร์ดอะพอนเอวอน มีประชากร 27,455 คน (สำรวจปี 2011) 

เมืองนี้เป็นอีกหนึ่งเมืองยอดนิยมในการมาเยือนของนักท่องเที่ยว เพราะว่าเป็นบ้านเกิดของกวีเอกของโลก วิเลี่ยม เชกสเปียร์ (William Shakespeare) ผู้ซึ่งประพันธ์นิยายหลายเรือ่ง หนึ่งในนั้นที่คนไทยเรารู้จักดีคือ "โรมีโอและจูเลียต" .... เมืองบ้านเกิดของท่านเช็กสเปียร์แห่งนี้ประมาณการว่ามีนักท่องเที่ยวมาเยือนปีละ 4.9 ล้านคนเลยทีเดียวครับ




ตื่นเช้าลงมาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารน่ารักๆของบ้านที่พัก อาหารก็สั่งเอาตามที่เราชอบ เจ้าของบ้านกับแมีครัวเขาเป็นคนทำให้ เลยสอบถามถึงได้ความว่าเธอแบ่งบ้านให้เช่า และเสียภาษีการค้าแบบโรงแรม และเธอพร้อมครอบครัวก็อาศัยอยู่ที่ชั้นล่าง ห้องอาหารจึงเป็นส่วนของบ้านเดิม เลยได้เห็นสภาพบ้านพักแบบอังกฤษด้วย.

หลังอาหารเช้า เราออกเดินไปโบสถ์เชกสเปียร์ หรือ The Holy Trinity Church ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำเอวอน (Avon) เดินไปไม่ไกลก็ถึงแล้ว ด้านหน้ามีป้ายโฆษณาเกี่ยวกับงานในช่วงคริตส์มาส ที่โบสถ์แห่งนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาชมปีละกว่า 200,000 คนเลยทีเดียว ใกล้ๆทางเข้าก็มีที่จอดรถแบบหยอดเหรียญ หรือ Pay and Place (จ่ายเงินที่เครื่องหยอดเรียญแล้วเอาตั๋วที่ได้มาวางโชว์ไว้ที่คอนโซลหน้ารถครับ) อยากจะอยู่นานแค่ไหน ก็กะเวลาเอา



ทางเข้า Holy Trinity Church หรือ Shakespeare's Church


ทางเข้าผ่าน Symmetry Yard ที่มีหิมะตกใส่ในคืนที่ผ่านมา

Shakespeare's Church หรือ Holy Trinity Church เป็นโบสถ์ที่เชกสเปียร์เข้ารีตทำพิธีล้างศีลบาบในวัยเด็ก และเป็นสุสานที่ฝังร่างของเขาชั่วนิรันดร์กาลด้วย ซึ่งที่ตั้งของโบสถ์ก็อยู่ริมฝั่งแม่น้ำเอวอนนั่นเอง เข้าชมด้านในได้ แต่ถ้าอยากเข้าไปดูหลุมฝังศพท่านเชกสเปียร์ใกล้ๆ ต้องเสียค่าบำรุงนะครับ มีเจ้าหน้าที่ยืนคอยเก็บตั๋วอยู่ ไม่แน่ใจนะว่าเป็นคนละ 4 ปอนด์ไหม



ส่วนหนึ่งที่ด้านในโบสถ์


The Holy Trinity Church


เดินออกจากโบสถ์เลียบแม่น้ำเอวอน


ออกจากโบสถ์เชกสเปียร์ก็เดินเลาะตามฝั่งแม่น้ำเอวอน เรื่อยไปจนถึงโรงละคร The Swan Theatre ตามทางริมแม่น้ำเอวอน เขาทำทางให้คนเดิน และทำจุดถ่ายภาพไว้หลายที่ โดยเฉพาะวันที่อากาศหนาวและปกคลุมด้วยหิมะที่ตกลงมาเมื่อคืนนี้ ยิ่งทำให้ได้ชมภาพที่สวยงามเพิ่มขึ้นไปอีกแบบ สีเขียวของพื้นหญ้าและคลุมด้วยสีขาวของหิมะด้านบน ทำให้คิดถึงแม้คะนิ๊งที่ดอยอินทนนท์ขึ้นมาเลยทีเดียว .... เลยโรงละคร The Swan ไปก็เป็นสวนสาธารณะ เลยไปอีกเป็นสะพานทอดข้ามแม่น้ำเอวอน เข้าสู่งเมือง Stratford upon Avon และมีอนุสาวรีย์ Gower Memorial ตั้งตระหง่านอยู่ ในร่องน้ำ (ทำเป็นท่าเรือ) ก็มีชมรมเรือพายของเมืองนี้ตั้งอยู่ เราถึงเห็นเขามาพายเรือในตอนเช้าๆ. 



ริมแม่น้ำเอวอน

ด้านหลังคือโรงละคร The Swan Theatre



สะพานข้ามแม่น้ำเอวอนเข้าเมือง


Gower Memorial Stratford upon Avon

เราเดินกลับเข้าเมืองเพื่อไปเดินชมบรรยากาศยามเช้าในถนน Henley St. ในช่วงเวลาใกล้วันคริตส์มาสแบบนี้ ผู้คนเดินกันฝักใฝ่รวมทั้งนักท่องเที่ยวด้วย บนถนน Henley St. ซึ่งถนนนี้จะปิดทำเป็นถถนคนเดิน ก็มีรถเข้ามาได้แค่เอาสินค้าหรือของใช้มาลงตามเวลาที่กำหนดให้เท่านั้น บนถนน Henley St นี้จะมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์แห่งหนึ่ง คือ สถานที่เกิดของกวีชื่อดัง William Shakespeare เป็นกวีและนักเขียนบทละครชาวอังกฤษชื่อดัง ซึ่งเรารู้จักกันดีคือ Romeo and Juliet 


ถนน Henley St (ซ้ายมือคือบ้านเกิดเชกสเปียร์)




บ้านเกิดเชกเปียร์


บนถนน Henley St ยังมี Shakespeare Center และร้านขายของที่ระลึก Shakespeare Gift shop ซึ่งในนั้นมีเครื่องปั๊มเหรียญรูปเชกสเปียร์ให้นักท่องเที่ยวปั๊มด้วย 


เหรียญที่ระลึกเข้าไปปั๊มเอาในเชกเปียร์กิฟท์ช้อบ


ถ่ายกับบ้นเกิด William Shakespeare


William Shakespeare

เชกสเปียร์ เกิดและเติบโตที่เมืองสแตรทฟอร์ด ริมแม่น้ำเอวอน เมื่ออายุ 18 ปี เขาสมรสกับแอนน์ ฮาธาเวย์ มีบุตรด้วยกัน 3 คนคือ ซูซานนาและฝาแฝด แฮมเน็ตกับจูดิธ ระหว่างช่วงปี ค.ศ. 1585-1592 เขาประสบความสำเร็จในการเป็นนักแสดงในกรุงลอนดอน รวมถึงการเป็นนักเขียน ได้ร่วมเป็นหุ้นส่วนในคณะละคร Lord Chamberlain's Men ซึ่งในภายหลังมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในชื่อ King's Men เชกสเปียร์เกษียณตัวเองกลับไปยังสแตรทฟอร์ดในราวปี ค.ศ. 1613 และเสียชีวิตในอีกสามปีต่อมา ไม่ค่อยมีบันทึกใดเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของเชคสเปียร์มากนัก จึงมีทฤษฎีมากมายที่คาดกันไปต่างๆ นานา เกี่ยวกับชีวิตส่วนตัว ความเชื่อทางศาสนา และแรงบันดาลใจในงานเขียนของเขา (อ่านเพิ่มเติม)




บ้านเรือนในสแตรตฟอร์ดอะพอนเอวอน

หอนาฬิกากลางเมือง

👉เช้าวันนั้น... เราเดินชมเมืองจากที่พัก ไปที่โบสถ์เชกสเปียร์ เดินริมแม่น้ำเอวอน ผ่านโรงละคร The Swan Theatre ผ่านสวน และเข้าถนน Henley St. ชมบ้านเชกสเปียร์ และซื้อของที่ระลึกใน Shakespeare's gift shop ก่อนวนกลับไปที่จอดรถหน้าที่พัก และขับออกจาก Stratford upon Avon เพื่อไปพักที่เมือง Chester ตามถนนสายรองที่มีหิมะตกมากมายในวันที่ 8 ธันวาคม ... แล้วเจอกันใหม่ในบล๊อกหน้าครับ💗


ลาด้วยภาพเรือพายในแม่น้ำเอวอน


______________





วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2561

+ ทุ่งโปรงทอง...อีกแห่งแหล่งท่องเที่ยวหน้าฝน +


ในวันเวลาที่ฝนกำลังลงเช่นในหน้าฝน ถ้าท่านยังหาที่เที่ยวแบบเดินชมธรรมชาติ สบายๆ สูดโอโซนมากๆอยู่แล้วละก็ ขอแนะนำนี่เลยครับ "ทุ่งโปรงทอง" ปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง ไม่ไกลจาก กทม.มากนัก สามารถไปเช้าเย็นกลับได้สบายๆ 

แผนที่ไปทุ่งโปรงทอง

การเดินทางสู่ทุ่งโปรงทอง : คิดว่าทุกท่านน่าจะเดินทางไป อ. แกลง จ. ระยองกันได้สบายๆอยู่แล้ว (ถ้ากลัวงง ก็ขับจาก กทม. ไปตามมอเตอร์เวย์ สาย 7 ไปแยกออกที่ป้ายบอกไประยอง เพื่อเข้าถนนสาย 36 แล้วขับไปทางระยอง หรือ ขับตามสาย 7 มาลงที่สาย 344 แล้วขับไปทางตะวันออกจนถึง อ.แกลง) .... จาก อ.แกลง เราขับตามถนนสุขุมวิท สาย 3 ไปประมาณ 10 กม. ถึงทางแยกเข้าปากน้ำประแสร์ ถนนสาย 3162 แล้วขับตามไปอีกจนถึงโค้งในบ้านประแสร์ มีทางแยกเป็นเทศบาบซอย 5 (เป็นซอยไม่ใหญ่มาก) จะมีป้ายบอกว่าไปทุ่งโปรงทอง .... ถึงบริเวณจะมีมี่จอดรถอยู่ 2 ที่ ด้านนอกทำดีหน่อย และด้านในอีกที่ จากนั้นจะมาสามล้อพ่วง หรือซาเล้งพาเขาไปตรงหน้าทางเข้าชมเลย ราคาคนละ 5 บาทต่อเที่ยวครับ

หน้าทางเข้าทุ่งโปรงทอง
จากตรงหน้า อบต.เขาจะมีศาลาและห้องน้ำสำหรับนักท่องเที่ยวครับ ถ้าท่านใดอยากจะนั่งเรือชมธรรมชาติป่าชายแลนสู่ทะเลประแสก็ย่อมได้ โดนเรือเขาคิดค่าบริการคนละ 50 บาท หรือถ้าไป 2-3 คน อยากเช่าก็ได้เขาคิดเที่ยวละ 200 บาท โดยเราสามารถไปลงตรงศาลเจ้าทางเดินเข้าทุ่งโปรทองอีกด้านหนึ่งก้ได้ได้ .... ด้านในบริเวณทุ่งโปรทองมีศาลาให้หลบฝนอยู่หนึ่งที่ครับ


 ศาลาหลบฝน


ทางเดินจะเป็นสะพานไม้แบบนี้ ยาวกว่า 2.6 กม.


ถึงบริเวณทุ่งโปรงทองเนื้อที่กว่า 6000 ไร่


ทุ่งโปรงทอง
แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ตั้งอยู่ในเขตชุมชนบ้านแสมภู่ ปากน้ำประแส อำเภอแกลง มีพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ ซึ่งแต่เดิม เป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านทำการประมง เลี้ยงกุ้ง ทำการเกษตร ทำสวนผลไม้ จนกระทั่งทรัพยากรธรรมชาติในบริเวณนี้ ได้ถูกทำลาย และสิ่งแวดล้อมป่าชายเลนเสื่อมโทรมลงอย่าง เทศบาลตำบลปากน้ำประแส ที่ดูแลใส่ใจและให้ความสำคัญในระบบนิเวศของป่าชายเลน เพื่อรักษาสมดุลสิ่งแวดล้อม และร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่เพื่อพัฒนาป่าชายเลนผืนที่ใหญ่ที่สุดของจ.ระยอง ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เชิงอนุรักษ์และศึกษาเรียนรู้ควบคู่กันไป โดยสร้างสะพานเดินศึกษาธรรมชาติ เป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ทุ่งโปรงทอง ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจในเรื่องระบบนิเวศน์ของป่าชายเลน ได้เห็นความสวยงามตามธรรมชาติของ ป่าโกงกาง ไม้โปรง และไม้ริมชายฝั่ง จุดเด่นของบริเวณนี้คือต้นโปรงที่ขึ้นหนาแน่นอยู่เต็มพื้นที่ สะท้อนสีเขียวอ่อนตา จนเรียกว่า เป็นทุ่งโปรงทอง
(ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.paiduaykan.com/province/east/rayong/tungprongthong.html)




เดินชมกันบนสะพานไม้






ทุ่งโปรทองอีกมุม



หลังจากเดินเที่ยวในทุ่งโปรทอง เสร็จ ขากลับออกมายังมีสินค้าจากชาวบ้านวางขายที่ศาลา อบต. นะครับ พวกอาหารทะเล ราคาไม่แพง.
ยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงให้ได้ไปเยือนกันอีกด้วย อาทิ อนุสรณ์เรือรบหลวงประแส, ศาลเจ้าพ่อประแส, หาดแม่รำพึง, อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด และตลาดน้ำเกาะกลอย เป็นต้น


ที่ทุ่งโปรงทองนี้ ทางเจ้าหน้าที่เขาไม่ให้นำอะไรเข้าไปกินในบริเวณนั้นนะครับ 
จาก จขบ.  .....  ผมว่าการห้ามแบบนี้ก็ดีนะครับ เพราะนักท่องเที่ยวอีกจำนวนไม่น้อยที่ชอบทำอะไรมักง่าย แม้จะมีประกาศให้นำสิ่งของที่นำเข้าไปในอุทยานออกมาด้วยก็ตาม ... บางครั้งบ้านเราก็ต้องเล่นยาแรงแบบนี้แหละครับ สถาที่สวยๆงามๆจะได้ไม่มีขยะมาเป็นส่วนเกิน จึงขอสนับสนุนให้ทางการเอาจริงเอาจังตลอดไป.


มีร้านไม้ให้ถ่ายภาพมุมสูงด้วย

เวลาเปิดให้เข้าชม 6.00 - 18.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชม ทุ่งโปรงทอง สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. ค่าเข้าชมฟรี  ทั้งนี้อาจจะมีค่าบริการฝากรถประมาณ 20 บาท (ที่จอดรถ 1 และ 2 ห่างจากทางเดินเข้าชมทุ่งโปรงทองประมาณ 800 เมตร มีรถสามล้อพ่วงบริการท่านละ 5 บาท)

ติดต่อ-สอบถาม:
ททท. สำนักงานระยอง โทรศัพท์ 038-655-420-1, 038-664-585
สำนักงานเทศบาลตำบลปากน้ำประแส โทรศัพท์ 038-661-720-1

จากระยองด้วยภาพนี้ครับ...ที่หาดแสงจันทร์


________________