ช่วงนี้ติดฝนไปไหนไม่ค่อยได้เลยไม่ค่อยมีอะไรเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวมาให้อ่านและชมกันครับ
แต่ช่วงฝนนี่ก็ดีไปอย่าง เพราะเป็นช่วงที่เข้าพรรษาด้วย
ฉะนั้นจึงเหมาะสำหรับการไปทำบุญและเที่ยววัดกันครับ
วันนี้จะพาคุณๆไปชมวัดที่มีชื่อเสียงวัดหนึ่งในขอนแก่น
นั่นก็คือ "วัดหนองแวง" ซึ่งเป็นพระอารามหลวง
วัดหนองแวงมีสัญลักษณ์โดดเด่นมากอย่างหนึ่งคือ "พระมหาธาตุแก่นนคร" ที่สูง 9 ชั้นไม่รวมยอดเจดีย์
โดยยอดเจดีย์ได้จำลองมาจากพระธาตุขามแก่น
พระธาตุอันเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของขอนแก่น....
วันนี้จึงจะพาคุณๆไปชมเจดีย์จากชั้นล่างไปถึงชั้นบนสุดกัน
วัดหนองแวง
วัดหนองแวง (พระมหาธาตุแก่นนคร) ตั้งอยู่ที่ถนนกลางเมือง
ริมบึงแก่นนคร อำเภอเมือง ภายในวัดหนองแวงเมืองเก่าซึ่งเป็นพระอารามหลวง
มีพระมหาธาตุแก่นนคร หรือ พระธาตุเก้าชั้นฐานสี่เหลี่ยมกว้างด้านละ 50 เมตร
เรือนยอดทรงเจดีย์จำลองแบบจากพระธาตุขามแก่น
จัดสร้างขึ้น
เนื่องในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี
และมหามังคลานุสรณ์ 200 ปี เมืองขอนแก่น ความสูงขององค์พระธาตุฯ 80 เมตร
มีพระจุลธาตุ 4 องค์ ตั้งอยู่ 4 มุมและมีกำแพงแก้วพญานาค 7 เศียรล้อมรอบ
เป็นศิลปะสมัยทวาราวดี ผสมผสานศิลปะอินโดจีน ซึ่งเป็นลักษณะแบบชาวอีสานตากแห
เดิมชื่อวัดเหนือ ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2332 พร้อมกับวัดกลาง และวัดธาตุ
โดยท้าวเพียเมืองแพน เจ้าเมืองคนแรก ณ บ้านบึงบอน (บึงแก่นนคร) พ.ศ.2354
ท้าวจามมุตร ท้ายเพียเมืองแพน เจ้าเมืองคนที่ 2 ได้ย้ายเมืองไปอยู่บ้านดอนพันชาติ
เขตเมืองมหาสารคาม (บ้านโนนเมือง ตำบลแพง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม)
บ้านบึงบอนจึงกลายเป็นเมืองเก่าตั้งแต่นั้นมา
ลักษณะพื้นที่ตั้งวัดและบริเวณโดยรอบเป็นที่ราบเรียบ เป็นลักษณะ 6
เหลี่ยม มีหมู่บ้านล้อมรอบสามด้าน
และมีบึงแก่นนครอยู่ทางทิศตะวันออกของวัด เคยได้รับรางวัล
เป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง ปี พ.ศ.2524 เป็นวัดพัฒนาดีเด่น ปี พ.ศ. 2526
และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกฐานะขึ้นเป็น พระอารามหลวง ปี พ.ศ.
2527
พระจุลธาตุ (ด้านหน้า)
ปัจจุบัน ตั้งอยู่ เลขที่ 593
ถนนกลางเมือง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.2442 โดยพระยานครศรีบริรักษ์(อู๋)
และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ.
2527
ภายในองค์พระธาตุมีอยู่ 9 ชั้น คือ
ชั้นที่ 1 เป็นหอประชุมมีพระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานอยู่บนบุษบกตรงกลางและพระประธาน 3 องค์อยู่ตรงกลาง บานประตู หน้าต่าง แกะสลักภาพนิทานเรื่องจำปาสี่ต้น โดยเฉพาะบานประตูแกะสลักภาพ 3 มิติและมีจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เมืองขอนแก่น
ชั้นที่ 2 เป็นหอพัก บานประตูหน้าต่างเขียนลวดลายเบญจรงค์และภาพแกะสลักนิทานเรื่องสังศิลป์ชัย ตามผนังด้านบนมีภาพเขียนเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคะลำ หรือข้อห้ามต่าง ๆ ของชาวอีสาน
ชั้นที่ 3 เป็นหอปริยัติ บานประตูหน้าต่างเขียนลวดลายเบญจรงค์และภาพแกะสลักนิทานเรื่องนางผมหอม
ชั้นที่ 4 เป็นหอปริยัติธรรม ภายในมีพิพิธภัณฑ์ของเก่าบานประตูหน้าต่างภาพพระประจำวันเกิด เทพประจำทิศและตัวพึ่ง-ตัวเสวย
ชั้นที่ 5 เป็นหอพิพิธภัณฑ์ มีบริขารของหลวงปู่พระครูปลัดบุษบา สุมโน อดีตเจ้าอาวาสวัดรูปที่ 6 บานประตูหน้าต่างแกะสลักภาพพุทธชาดก
ชั้นที่ 6 เป็นหอพระอุปัชฌายาจารย์ บานประตูหน้าต่างแกะสลักนิทานชาดกเรื่องเวสสันดร
ชั้นที่ 7 เป็นหอพระอรหันตสาวก บานประตูหน้าต่างแกะสลักนิทานเรื่องพระเตย์มีใบ้
ชั้นที่ 8 เป็นหอพระธรรม เป็นที่รวบรวมพระธรรม คัมภีร์สำคัญทางพระพุทธศาสนามีพระไตรปิฏก ฯลฯ บานประตูแกะสลักรูปพรหม 16 ชั้น
ชั้นที่ 9 เป็นหอพระพุทธ ตรงกลางมีบุษบก เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า บานประตูแกะสลักภาพ 3 มิติ รูปพรหม 16 ชั้น และสามารถชมทัศนียภาพของตัวเมืองขอนแก่นได้ทั้ง 4 ด้าน โดยเฉพาะทางด้านทิศตะวันออกสามารถมองเห็นบึงแก่นนครได้สวยงามมาก
ทางวัดได้จัดให้มีมัคคุเทศน์น้อยนำชม อธิบายภาพเขียนต่าง ๆ รวมทั้งสิ่งของที่จัดแสดงไว้ เพื่อความเข้าใจในเรื่องราวต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น
ไหว้พระที่ชั้นล่างก่อน
ภาพเขียนบนผนัง..เล่าเรื่องวิถีชีวิตชาวอีสาน
ชั้น 2 จัดเป็นพิพิธภัณฑ์...เครื่องใช้ของชาวบ้านในอีสาน
รูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ต่างๆ อยู่ชั้นที่ 6
บันไดขึ้น
มีชาวพุทธมาสวดมนต์ภาวนาอยู่ด้วย
ที่ระเบียงชั้น 9
ชั้น 9 พระมหาธาตุแก่นนคร
ทิวทัศน์ เมืองขอนแก่น..เห็นน้ำด้านข้างคือ "บึงแก่นนคร"
การเดินทางก้ไม่ยากครับ เข้าไปในเมืองขอนแก่นแล้วจะมองเห็นยอดเจดีย์สูงตระหง่านอยู่ ขับรถตามไปได้เลย
สำหรับท่านที่จะเข้าไปชม แนะนำให้เข้าวัดด้านบึงแก่นนครครับ จากถนนตรงนั้นไม่ไกลจะมีลานจอดรถ สะดวกดี จอดได้ทั้งรถบัส และรถส่วนตัวครับ
ส่วนสถานที่น่าชมใกล้ๆกันนี้ ก็จะมีวัดธาตุ พระอารามหลวงอีกแห่งหนึ่ง... บึงแก่นนคร... โฮงมูนมัง (จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองขอนแก่น)... เลยออกไปทาง ต.พระลับ ก็จะมี "สิมอีสาน" ที่วัดป่าแสงอรุณ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมร่วมสมัยเกี่ยวกับสิมที่สวยที่สุดของขอนและภาคอีสาน... ใกล้ๆกันนั้นก็มีวัดทุ่งเศรษฐีครับ (วัดทั้งสองแห่งเขียนไว้ในกรุ๊ปบล๊อก ชมวัดไหว้พระครับ.
ลากันด้วยภาพนี้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น