มาสวัสดีกันครับ หลังจากที่ห่างหายไปนาน แต่เชื่อเถอะใจก็ยังคิดถึงชาว bloggang และแฟนๆเสมอครับ .... มาวันนี้จะพาท่านไปท่องแถวสแกนดิเนเวีย แถบขั้วโลกเหนือกันครับ ไปคราวนี้เป็นการเดินทางไปเที่ยวช่วงหน้าหนาวซะด้วย ภาพที่ได้มาก็เลยหนาวๆทึมๆไปด้วยครับ
เริ่ม Scandinavia กันบล๊อกแรกนี้ จะพาคุณๆไปเที่ยวเมืองโคเปนเฮเกน (Copenhagen) ประเทศเด็นมาร์ก กันก่อนนะครับ
23 พฤศจิกายน 2019 เราออกเดินทางจากสุวรรณภูมิด้วยเที่ยวบิน TG 950 โดยการบินตรง ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 11.40 ชั่วโมง ถึงสนามบิน .... กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเด็นมาร์กครับ การเดินทางตลอดเส้นทางเรียบร้อยเหมือนคำที่เจ้าจำปีบอกว่า Smooth as silk นั่นแหละครับ แต่ตอนลงแลนดิ้งที่ท่าอากาศยานโคเปนเฮเกน รอสคิลเดอร์ โคเปนเฮเกน นี่สิมีเสียวเล็กๆ เหมือนกัปตันเขาพยามเอาเครื่องลงแบบขวางลมนิดๆ เลยตอนลงพื้นเฟิร์มนิดหนึ่ง ทำให้ผู้โดยสารพากันมองหน้ากันเลิ่กลั๊ก แต่ก็ผ่านไปด้วยดีครับ ... ท่าอากศยานของเขาไม่ใหญ่โตเท่าสุวรรณภูมิเราครับ แถมเดินลูกเดียวจากประตูเครื่งถึง ตม. ไม่มีสายพานเดินแบบบ้านเราด้วย ถึงตม.ก็ไม่ยุ่งยากครับ เขาแบ่งส่วนชาว EU กับนอก EU ไว้เหมือนสนามบินในยุโรปทั่วๆไป ตรวจตราพาสปอร์ตและถ่ายภาพนิดหน่อยก็ผ่านไปด้วยดี รับกระเป๋าเสร็จแล้วจัดแจงเอาเสื้อกันหนาวที่เตรียมไปในกระเป๋าใหญ่ออกมาใส่กัน และเตรียมกระเป๋าเล็กเพื่อนอนบนเรือคืนนี้ด้วย (บนเรือจะนำเสนอในตอนถัดไปครับ)
เช้านี้ไม่ต้องพะวงเรื่องอาหารเช้า เพราะเจ้าจำปีแจกเราบนเครื่องแล้ว อ้อเกือบลืมบอกไปว่าเดินทางมากกว่า 10 ชั่วโมงเช่นนี้การบินไทยเขาแจกอาหารบนเครื่อง 2 มื้อรวมเครื่องดื่มมากมาย ... ฉะนั้นเช้านี้เราเริ่มรัยโปรแกรมเที่ยวได้เลยครับ
จุดแรกที่เราจะไปคือนี่เลยแลนด์มาร์สำคัญของโคเป็นเฮเกน คือเจ้ารูปปั้นสำริด Little mermaid หรือเงือกน้อย ที่อ่าวโคเป็นเฮเก็นนั่นแหละครับ แต่ด่อนที่จะออกไปถึงที่นั่น รถก็พาเราตระเวณชมเมืองก่อน...ซึ่งถึงแม้จะเช้าจน 8.30 น.แล้วก็ตามยังไม่มีพระอาทิตย์มาเยี่ยมเยือนพวกเราเลย ถนนหนทางยังเปิดไฟสว่างไสวอยู่เลย เพราะช่วงกลางวันแถบนี้จะค่อนข้างสั้นในหน้าหนาว คือเฉลี่ยประมาณ 6 ชั่วโมงเอง พระอาทิตย์จะโผล่ฟ้ามาก็ประมาณ 9 โมงกว่าๆแล้ว แต่ก็ยังพอเห็นแสงสว่างบนฟ้าบ้าง และท่านพระอาทิตย์ก็จะจากคนที่นั่นไปประมาณบ่าย 3 โมงกว่าๆ เพราะฉะนั้นภาพที่ท่านเห็นจึงออกสีแบบนั้น (ถ่ายไม่เก่งด้วย)
Little Mermaid (เงือกน้อย)
และแล้วเราก็มาถึงชายทะเลที่เจ้าเงือกน้ยตั้งอยู่ คือ Langelinie, 2100 København Ø, เดนมาร์ก หรืออ่าวโคเปนฮเกนจนได้ ออกจากรถไปดูโทรศัพท์มือถือบอกว่าอุณหภูมิ 6 องศา แต่เจอลมที่ฝรั่งเขาเรียกว่า windchill เข้าเลยหนาวเย็นจับขั้วกระดูก หลายคนในกลุ่มเดียวกันถ่ายภาพได้ไม่ถึง 5 นาทีต้องแจวแน็บกลับรถเพื่อหาไออุ่นกัน ... ไหนๆมาถึงแล้วก็ต้องทำความรู้จักกับเจ้าเงือกน้อยนี้ซะหน่อย.
รูปปั้นเงือกน้อย (The statue of The Little Mermaid) เป็นรูปปั้นสำริดรูปเงือกนั่งอยู่บนก้อนหิน มีขนาดความสูงประมาณ 1.25 เมตร ตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะริมอ่าวโคเปนเฮเกน เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
รูปปั้นเงือกน้อย (The statue of The Little Mermaid) เป็นรูปปั้นสำริดรูปเงือกนั่งอยู่บนก้อนหิน มีขนาดความสูงประมาณ 1.25 เมตร ตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะริมอ่าวโคเปนเฮเกน เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
The statue of The Little Mermaid
รูปปั้น The Little Mermaid นี้สร้างขึ้นโดยศิลปินชาวเดนมาร์กชื่อ เอ็ดวาร์ด อีริกเซน ตามคำสั่งจ้างของคาร์ล จาค็อบเซน บุตรชายของผู้ก่อตั้งบริษัทเบียร์คาร์ลสเบิร์ก ในปี ค.ศ. 1909 ซึ่งมีความประทับใจในบัลเลต์เรื่อง เงือกน้อยผจญภัย (The Little Mermaid) จากนิทานของฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน โดยอีริกเซนนำแบบใบหน้ามาจากนักเต้นบัลเลต์ชื่อ เอลเลน ไพรซ์ ส่วนร่างกายที่เป็นหญิงเปลือยนำแบบมาจากภรรยาของตัวเขาเอง รูปปั้นแล้วเสร็จถูกนำไปติดตั้งตั้งแต่เดือนสิงหาคม ค.ศ. 1913 รูปปั้นนี้มีน้ำหนักประมาณ 175 กิโลกรัม
ตั้งแต่ทศวรรษ 1950 เป็นต้นมา รูปปั้นซึ่งตั้งอยู่ในที่สาธารณะถูกลักลอบทำความเสียหายหลายครั้ง ทั้งตัดศีรษะ แขน พ่นสีใส่ หรือถูกนักท่องเที่ยวปีนป่ายเพื่อถ่ายภาพ
ปัจจุบันรูปปั้นที่จัดแสดงอยู่เป็นรูปจำลองที่ทำขึ้นมาใหม่ ส่วนรูปปั้นตัวจริงเก็บรักษาอยู่ในสถานที่ที่ไม่เปิดเผย ภายใต้การครอบครองของทายาทของเอ็ดวาร์ด อีริกเซน
ตั้งแต่ทศวรรษ 1950 เป็นต้นมา รูปปั้นซึ่งตั้งอยู่ในที่สาธารณะถูกลักลอบทำความเสียหายหลายครั้ง ทั้งตัดศีรษะ แขน พ่นสีใส่ หรือถูกนักท่องเที่ยวปีนป่ายเพื่อถ่ายภาพ
ปัจจุบันรูปปั้นที่จัดแสดงอยู่เป็นรูปจำลองที่ทำขึ้นมาใหม่ ส่วนรูปปั้นตัวจริงเก็บรักษาอยู่ในสถานที่ที่ไม่เปิดเผย ภายใต้การครอบครองของทายาทของเอ็ดวาร์ด อีริกเซน
แลนด์มาร์กหนึ่งของ Copenhagen คือ ประติมากรรมสำริดรูปนางเงือก ตัวละครในเทพนิยาย H.C. Andersen เป็นผลงานชื่อดังของ Edvard Eriksen นี่แหละครับ
ในบริเวณข้างๆเจ้าเงือกน้อยยังมีสวนสาธารณะด้วย
ออกจากการถ่ายภาพกับเจ้ารูปปั้นเงือกน้อยแล้ว เราก็ไปต่อที่อีกแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก ถ้าจะเดินก็พอได้คือประมาณ 5 นาที หรือ 450 เมตรเท่านั้นเอง แต่หนาวๆแบบนี้ นั่งรถไฟจะเข้าท่ากว่าเยอะ สถานที่ที่ว่าคือ "น้ำพุเกฟิออน" หรือ Gefion Fountain
Gefion Fountain.(น้ำพุเกฟิออน)
สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแก่เทพี
ในตำนานเขาเล่าสืบกันมาว่า ... ราชินีเกฟิออนได้รับมอบหมาย
ดูรูปทรงแล้ว ถ้าเป็นหน้าร้อนที่เขาเปิดน้ำพุ สถานที่แห่งนี้คงสวยงามน่าชมมาก แต่วันที่เราไปอากาศหนาวเย็นแบบนั้น ถ้าเขาปล่อยน้ำออกมาที่น้ำพุแห่งนี้ น้ำคงกลายเป็นน้ำแข็งเป็นแน่แท้ครับ ... ข้างๆน้ำพุมีโบสถ์เล็กๆแห่งหนึ่งชื่อ St. Alban's Church และข้ามสะพานไปจะเห็นรูปปั้นของ Frederick IX กษัตริย์ของเดนมาร์คช่วง ปี ค.ศ. 1947 - 1972 ยืนเด่นอยู่
มองเข้าไปในเมือง ปลายสุดคือพระราชวัง Amalienborg
Frederick IX
สะพานนี้จะข้ามจากน้ำพุเกฟิออนไปสวนที่ตั้งอนุสาวรีย์ Frederick IX
ท่าเรือตรงนี้ที่เห็นโดมเล็กๆสีเขียวนั่น คือที่ที่ ร.5 ท่านเสด็จทาขึ้นฝั่งและเปลี่ยนฉลองพระองค์ตรงนั้น
มองลงไปจากน้ำพุเกฟิออนจะเห็นสถานที่ ร.5 ท่านเสด็จมาขึ้นฝั่งครับ
การเดินทางท่องเที่ยวแถวๆยุโรป เรื่องสำคัญอีกเรื่องคือ ห้องน้ำ ซึ่งเป็นอะไรที่หาได้ยากพอดู ไม่เหมือนบ้านเรานะ เพียงแวะที่ปั๊มน้ำมันก็เจอห้องน้ำสะอาดแล้ว วันนั้รถต้องพาเราวนไปหาห้องน้ำอยู่พอสมควรครับ ถ้าท่านไปเที่ยวก็อย่าลืมเรื่องแบบนี้เด็ดขาด ต้องจัดการให้ดีนะครับ ... สำหรับบล๊อกนี้ที่จริงตั้งใจว่าจะให้จบเรื่องที่ Copenhagen ในบล๊อกเดียว แต่มาดูภาพแล้วเลยขอต่ออีกบล๊อกละกันนะครับ ... แล้วเจอกันในบล๊อกหน้าครับ
ด้านหลังน้ำพุ Gefion มีสวน
ลากันด้วยภาพนี้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น