วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2561

+ เที่ยวญี่ปุ่นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี 2 ... รอบๆ ฟูจิซัง +



อ่าน : เที่ยวญี่ปุ่นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี 1 ... ณ โตเกียว

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2018   การเที่ยวญี่ปุ่นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีของเรา (ครอบครัวเรา 5 คน) ก็มาถึงวันที่ 2 แล้วนะครับ วันนี้เราวางโปรแกรมไว้ว่าจะเที่ยวบริเวณภูเขาไฟฟูจิยาม่า หรือ ฟูจิซัง (Fujisan) ที่เราชอบเรียกกันนั่นแหละครับ เรื่องราวของภูเขาไฟบนโลกนี้มันมีทั้งที่ดับแล้วและยังไม่ดับนะครับ อย่างเช่นเจ้าฟูจินี่ก็นับว่าเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ตายหรือยังไม่ดับครับ หรือเขาเรียกว่า Active Volcano นั่นแหละครับ ส่วนถ้าจะปะทุหรือจะเกิดเหตุการขึ้นเมื่อไหร่นั้น ประเทศที่เจริญทางเทคโนโลยีมากๆ เช่นญี่ปุ่นเขาก็จะมีวิธีการเตือนครับ เช่น ส่งสัญญาณเตือนภัยเข้าโทรศัพท์มือถือของประชาชนครับ ส่วนการหลบภัยนั้นเขาก็ทำเป็นเส้นทางไว้พร้อมกับวิธีการ หรือ procedure ไว้ให้ประชาชนเขารับทราบ .... นักท่องเที่ยวอย่างเราก็รอเขาบอกและทำตาม

วันนี้เราจะไปกัน 3-4 ที่ ตามสภาพร่างกายของทีม คือ จุดแรกจากโรงแรมที่โตเกียวเดินทางไปทะเลสาบยามานากา (Lake Yamanaka) เพื่อชมภาพฟูจิแบบสวยๆ ชัดๆ (หมายถึงสภาพอากาศดีด้วย) จากนั้ก็ไปหมู่บ้านน้ำใส (Oshino Hakkai Village) แล้วไปทานมื้อเที่ยงกันก่อน เสร็จมื้อเที่ยวันก็จะไปเจดีย์ห้าชั้น (Chureito Pagoda) ซึ่งอยู่ในบริเวณ ศาลเจ้า Arakura Sengen แล้วไปขึ้นกระเช้าที่เรียกว่า Mt. Fuji Panoramic Ropeway เพื่อขึ้นไปชมเจ้าฟูจิในตอนเย็นๆ ก่อนจะลงมาเช็คอินเข้าที่พักที่ Kawaguchigo Business & Resort Sawa Hotel ตามเส้นทางด้านล่างครับ



แผนการเดินทางในวันนี้



เนื่องจากน้องคนขัยรถบอกเราว่า 23-25 เป็นวันหยุดยาว ชาวญี่ปุ่นเลยออกไปเที่ยวแถวๆฟูจิกันเยอะมาก มากจนชนิดที่เรียกว่าระยะทาง 128 กม. จากโตเกียวไปแถวๆพื้นที่ฟูจิรถติดหนึบ ต้องขับกว่า 6 ชั่วโมงบนทางด่วนนั่นแหละครับ วันนี้เป็นหยุดวันสุดท้ายขาออกจาโตเกียวคงวิ่งสะดวก และก็จริงๆตามที่เราคาดหวังครับ เพียงชั่วโมงเศษๆเราก็มาถึงทางเข้าทะเลสาบ Yamanakako แล้ว (คำว่า "Ko" คงแปลว่าหนองน้ำหรือทะเลสาบ)


เส้นทางออกจากโตเกียว


Park หรือ ที่พักระหว่างทาง มีทุกอย่างเหมือย ปตท. บ้านเราแต่พื้นที่มากกว่า


แล้วฟูจิซังก็โผล่เขาออกมา (ภาพจากบนรถ)

พอถึงทะเลสาบ เรามองเห็นภาพเขาฟูจิสวยงามยืนตระหง่านอยู่ด้านบนทะเสาบ แทบอดใจไม่ไหว กดชัตเตอร์กล้องจนรัวแบบไม่ยั้ง ตรงไหน มุมไหน สวยไปหมด บอกตรงๆว่าเลือกภาพมารีวิวยากมากๆ



ฟูจิซัง (ภาพจากบนรถ)


ทะเลสาบยามานากาโกะ มีความสูง 980.5 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีพื้นที่ 6.78 ตารางกิโลเมตร ระดับความลึกสูงสุด 13.3 เมตร

ทะเลสาบยามานากาโกะ (Yamanakako) ตั้งอยู่ทางเชิงเขาฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของภูเขาไฟฟูจิ(Fuji) เกิดจากการประทุของภูเขาไฟฟูจิ (Fuji) ... นอกจากทะเลสาบยามานากาโกะ (Yamanakako) แล้วยังมีทะเลสาบขนาดใหญ่อื่นๆอีก รวมแล้วมีทะเลสาบทั้งสิ้น 5 แห่ง ตั้งอยู่ที่เชิงเขาทางทิศเหนือของภูเขาไฟฟูจิ เรียงตัวกันเป็นรูปโค้ง เรียกทะเลสาบทั้ง 5 แห่งนี้ว่า ฟูจิโงะโกะ (Fujigoko) หรือทะเลสาบฟูจิทั้ง 5




จากเรื่องเล่าในอดีตที่กล่าวกันว่า ในช่วงครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษ ที่ 16 ฮะเสะงะวะ คะกุเงียว ได้ไปทำพิธีชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิ์ที่ทะเลสาบทางเชิงเขาของภูเขาไฟฟูจิ(Fuji) จนทำให้เกิดเป็นพิธีกรรมการทางศาสนาขึ้น ซึ่งเป็นพิธีกรรมของกลุ่มคนที่เชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธ์ที่สถิตอยู่ในภูเขาไฟฟูจิ (Fuji) (ฟูจิโค) พิธีชำระล้างจิตใจนี้ จะทำการเดินวนไปรอบๆ ทะเลสาบและหนองน้ำที่อยู่บริเวณเชิงเขาทั้งหมด 8 แห่ง เรียกพิธีนี้ว่าอุฉิ ฮัคคะอิ เมะงุริ ….. นอกจากนี้ในบันทึกที่เชื่อกันว่าเป็นบันทึกที่ คะคุเงียว เขียนด้วยลายมือของตัวเองในช่วงครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 16ได้เขียนยกตัวอย่างหนองน้ำหนึ่งในแปดหนองน้ำที่คะคุเงียว ได้ไปทำพิธีชำระล้างจิตใจก็คือทะเลสาบยามานากาโกะ (Yamanakako) นั่นเอง ... แม้แต่ในหนังสือซังจู อิฉินิฉิ โนะ โอะมะกิ ที่เขียนขึ้นในปี ค.ศ. 1733 จิคิเงียว มิโระคุ ยังได้หยิบยกเรื่องทะเลสาบและหนองน้ำทั้ง 8 แห่งมาเขียนไว้ในฐานะเป็นดินแดนแห่งการแสวงบุญในการทำพิธีอุฉิ ฮัคคะอิ เมะงุริ ด้วย

จากนั้นไม่ว่าจะยุคใดสมัยใด ทะเลสาบทั้ง 5 แห่ง หรืออีกชื่อคือ ทะเลสาบฟูจิทั้ง 5 ที่มีทะเลสาบยามานากาโกะ (Yamanakako) รวมอยู่ด้วยนั้นก็ยังคงได้รับการกล่าวให้เป็นสถานที่สำหรับการมาแสวงบุญในการทำพิธีชำระล้างจิตใจไม่เปลี่ยนแปลง








ทะเลสาบยามานากา  เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในหมู่ทะเลสาบทั้ง 5 บริเวณภูเขาไฟฟูจิ ตั้งอยู่ในจังหวัดยามานาชิ บริเวณทะเลสาบเหมาะแก่การประกอบกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ เช่น ล่องเรือ ตกปลา สกีน้ำ โต้คลื่น ว่ายน้ำ และชมทิวทัศน์ภูเขาไฟฟูจิ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ให้บริการกางเต้นท์ ทะเลสาบยามานากะเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฟูจิฮาโกเนอิซุ และเป็น 1 ในบรรดาทะเลสาบทั้ง 5 แห่งที่ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกพร้อมกันกับภูเขาไฟฟูจิ อุทยานแห่งชาติฟูจิฮาโกเนอิซุ และน้ำตกชิราอิโตะภายใต้ชื่อ "ฟุจิซัง - สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และแหล่งบันดาลใจทางศิลปะ" เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556 ที่ผ่านมา




💘💘💘💘


จากทะเลสายยามานากานั้นไปชมหมู่บ้านน้ำใส โอะชิโนะฮักไก (Oshino Hakkai) ส่วนหนึ่งของมรดกโลกทางวัฒนธรรมภูเขาฟูจิ (ขึ้นทะเบียน มิถุนายนปีเฮเซที่25) ผู้คนบูชาในฐานะบ่อน้ำของเทพเจ้า มาตั้งแต่สมัยโบราณ มีตำนานหลายเรื่องถูกเล่าต่อๆกันมา ... โอะชิโนะฮักไก(Oshino Hakkai) มีบ่อน้ำพุ 8 บ่อ หมู่บ้านโอะชิโนะมุระ(Oshino Mura) ในปัจจุบันครั้งหนึ่งเคยเป็นทะเลสาบมาก่อน แต่ภายหลังภูเขาฟูจิ (Fuji) ปะทุหลายครั้งทำให้ร่องเขาระหว่างเทือกเขาฟูจิซุโซโนะ (susono) กับเทือกเขามิซากะ (Misaka) ถูกกัดเซาะจนน้ำระบายออกไป ผ่านไปเป็นเวลานานทะเลสาบก็แห้งในที่สุด แต่ยังหลงเหลือบ่อน้ำพุซึ่งเป็นต้นน้ำของน้ำใต้ดินภูเขาฟูจิ (Fuji) บ่อน้ำพุเด่นๆก็คือโอะชิโนะฮักไก (Oshino Hakkai) ในปัจจุบันนั่นเอง ด้วยคุณภาพน้ำ, ปริมาณน้ำ, สภาพที่ยังได้รับการอนุรักษ์, และวิวอันสวยงาม ทำให้กระทรวงสิ่งแวดล้อมเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยแหล่งน้ำขึ้นชื่อของประเทศในปี1985 (ปีโชวะที่60) รวมถึงเป็นมรดกทางธรรมชาติของประเทศอีกด้วย นอกจากนี้ วิวภูเขาฟูจิ (Fuji) ซึ่งมองจากโอะชิโนะฮักไก(Oshino Hakkai) และบริเวณโดยรอบยังงดงาม เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมของช่างภาพ



ภายในหมู่บ้าน Oshino Hakkai 


จุดเด่นของหมู่บ้านแห่งนี้ก็คือ 1. น้ำในบ่อน้ำในหมู่บ้านใสสะอาดจนมองเห็นพื้นดินเลย เมื่อมีปลาว่ายอยู่ก็มองเห็นได้ชัดด้วย  ภายในหมู่บ้านแห่งนี้มีบ่อน้ำผุดซึ่งเป็นน้ำใต้ดินที่ไหลมาจากภูเขาไฟฟูจิ ชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าเป็นน้ำที่สะอาดและมีความศักดิ์สิทธิ์ หากใครได้ดื่มก็จะมีอายุยืนยาว ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ อุณหภูมิน้ำเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10-12 องศา เราสามารถตักดื่มได้ตามอัธยาศัย ... ข้อที่ 2 คือมองเห็นเขาฟูจิ หรือฟูจิซังได้ชัดมาก (ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส) ... ข้อที่ 3 คือ เขาว่าปลาที่นี่อร่อย (ไม่ได้ชิมที่นี่นะ แต่ชิมที่ร้านอาหารใกล้ๆกัน อร่อยมากๆ) ... ข้อที่ 4 คือ สินค้าโอท้อปเลิศรส ... ข้อที่ 5 คือ อากาศดี เพราะรอบๆหมู่บ้านยังรักษาธรรมชาติไว้ดีเยี่ยม




เมื่อเข้ามาถึงหมู่บ้านตรงที่จอดรถ ก็สามารถแวะไปหาข้อมูลก่อนไปเดินชมหมู่บ้านได้ เขามีเอกสารแจกฟรีครับ ใกล้ๆกันก็มีห้องน้ำไว้บริการฟรีอีกด้วย .... วันนี้ไปถึงช่วงสายแล้ว นักท่องเที่ยวจึงมากันเกือบเต็มหมู่บ้านแล้ว ดูๆยังกะงานวัดบ้านเราเลยครับ



มองเห็นปลาคราปที่ว่ายในบ่อน้ำ


มุมที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายเซลฟี่กัน


ในหมู่บ้านมีคลองและสะพานข้ามสวยงาม



ใบเมเปิ้ลสีแดงยังพอมีให้เห็นอยู่


เดินชมธรรมชาติริมคลองในบริเวณหมู่บ้าน


รั้วทำเก๋มาก


น้ำใสมาก


ภายในหมู่บ้าน...ปลา และ ขนม ก็มีปิ้งขายด้วย


จากหมู่บ้านมองเห็นเขาฟูจิชัดมาก



💘💘💘💘


เดินทางต่อ..ไปทานมื้อเที่ยงกัน


ร้านอาหารปิ้งย่างแบบญี่ปุ่นที่เราไปทานกัน เป็นร้านแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมใช้ถ่ายไม้ธรรมชาติย่าง ไม่รับจอง เพราะแต่ละคนหรือกลุ่มเข้าไปนั่งแล้วจะใช้เวลาพอควร ทุกคนเข้าไปที่ร้านจะต้องสั่งอาหารคนละเซท ประมาณ 5000 เยน แต่ที่เด็ดของร้านที่ไม่ควรพลาดคือปลาสดๆ เอามาย่างครับ เจ้าของร้าบอกเราว่าชื่อปลา อาชา (ประมาณนี้ถ้าฟังไม่ผิด) อยู่ต้นน้ำ (upstream) มีเฉพาะที่ญี่ปุ่นด้วย ... เราสั่งมาด้วย ย่างสุกแล้วทานได้เกือบหมดตัว ยังงเลยว่าก้างปลาทำไมไม่ค่อยติดออกมาด้วย อร่อยจริงๆครับ ... ทีนี้ก็เมนูเสียบไม้ประเภทที่มาในเซทที่เป็นเนื้อ เขาสอนวิธีย่าง โดย 1. ย่างไฟก่อน 2. ชุปน้ำซอส 3. ย่างอีกครั้ง 4. แล้วค่อยทานกัน ทำแบบนั้นแล้วได้ผลจริงๆ .... ตอนเราไปต้องรอที่ว่างครึ่งชั่วโมงครับ ถึงเสียเวลาแต่ก็ได้ประสพการณ์ใหม่ๆ แถมอร่อยปากด้วย


ร้านนี้




💘💘💘


จากนั้นเดินทางไป เจดีย์ชูเรโตะ (Chureito Pagoda) ซึ่งอยู่ในศาลเจ้าอะระคุระ เซ็นเก็น (Arakura Sengen Shrine) ตั้งอยู่บนเขาสูงกับบันไดกว่า 400 ขั้นพร้อมชมวิวธรรมชาติแบบสมบูรณ์ทั้งภูเขาไฟฟูจิและเมือง Fujiyoshida

ศาลเจ้าอะระคุระ เซ็นเก็น สร้างขึ้นในปี 1963 เพื่อเป็นอนุสรณ์สันติภาพ ตัวศาลเจ้านั้นอยู่บริเวณพื้นล่าง เมื่อเดินขึ้นขั้นบันได ก็จะเจอกับตัวเจดีย์แดงหรือเจดีย์ชูเรโตะและบริเวณจุดนั่งพักผ่อน เจดีย์ชูเรโตะเป็นเจดีย์สูง 5 ชั้นที่สามารถมองเห็นเมืองฟูจิโยชิดะและภูเขาไฟฟูจิที่อยู่ห่างออกไปได้อย่างชัดเจน และทัศนียภาพสวยงาม ซึ่งถือเป็นหนึ่งในจุดชมฟูจิยอดนิยม



ทางขึ้นเจดีย์ชูเรโตะ (เจดีย์ 5 ชั้น) ที่ศาลเจ้า Arakura Sengen


จากตรงนี้ต้องเดินขึ้นไปด้วยบันไดแบบนี้ 400 ขั้น


ทางเดินขึ้นและที่นั่งพัก


ชั้นแรกมีที่นั่งพักชมเมือง Fujiyoshida










ตามข้างบันไดทางขึ้นใบเมเปิ้ลกำลังเปลี่ยนสีและร่วงแล้วก็เยอะ


เจดีย์ชูเรโตะ (Chureito)


วิวเมืองฟูจิโยชิดะและเขาฟูจิ (เสียดายใบไม้แดงร่วงหมดแล้ว)





ใบไม้เปลี่ยนสีข้างบันได้







💘💘💘💘



จาก Chureito Pagoda เราไปต่อกันที่นี่ครับ Mt. Fuji Panoramic Ropeway เพื่อขึ้นเขาไปชมเขาฟูจิ และทะเลสาบกาวากูชิ กับเมืองกาวากูชิ ซื้อบัตรคนละ 800 เยน แล้วไปขึ้นกระเช้าแบบตู้รถไฟแบบที่เห็นในภาพ เป็นกระเช้าแบบยืนนะครับ ... สถานีด้านล่างอยู่ไม่ไกลจากลานจอดรถริมทะเลสาบมากนัก เราเดินไปได้ครับ ช่วงที่ไปเป็นช่วงเย็นประมาณ 4 โมงเย็น แต่เข้าหน้าหนาวแบบนี้ มืดไวครับ ... ด้านบน เป็นลานมีเจ้ากระต่ายให้ถ่ายภาพ แถมมีศาลเจ้าเล็กๆอีก ถ้าใครมีเวลาเขาก็มีเส้นทางให้เดินป่าด้วยครับ (เข้าไปดูในเวป https://www.mtfujiropeway.jp/th/ ได้ครับ)


Mt. Fuji Panoramic Ropeway (จากเวป)

ด้านบนเขานั้นมีจุดชมวิวแบบพาโนราม่าที่อยู่สูงกว่า 1,075 เมตรจากระดับน้ำทะเล และมีการตกแต่งด้วยตัวการ์ตูนจากนิทานพื้นบ้านของญี่ปุ่นเรื่อง “Kachi Kachi Yama” ของ Dazai Osamu ซึ่งเกี่ยวกับกระต่ายและทานูกิ โดยนักท่องเที่ยวสามารถชมวิวได้แบบ 360 องศาทั้งทะเลสาบคาวากุจิโกะและภูเขาไฟฟูจิ นอกจากนี้ก็ยังมีร้านขายอาหารและของที่ระลึกอีกด้วย



ใบไม้เปลี่ยนสีตามทาง Ropeway


วิวเขาฟูจิยามเย็น



มรดกโลกของฟูจิ

ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 37 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา องค์การยูเนสโก ได้ประกาศให้ภูเขาไฟฟูจิเป็น มรดกโลกทางวัฒนธรรม ในวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2545 ภายใต้ชื่อ "ฟูจิซัง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และแหล่งที่มาของความบันดาลใจทางศิลปะ" ทำให้ภูเขาไฟฟูจิเป็น มรดกโลกทางวัฒนธรรม แห่งที่ 13 และเป็น มรดกโลก แห่งที่ 17 ของ ประเทศญี่ปุ่น

สถานที่แห่งนี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า ฟูจิชินโคและเป็นต้นกำเนิดของงานศิลปะต่างๆ ฟูจิซังหรือภูเขาไฟฟูจิได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมและได้ถูกประเมินในความหมายทางวัฒนธรรมในฐานะหัวข้อผลงานอย่างเช่น ภาพวาดเกี่ยวกับความบันเทิงของชีวิตชาวเมืองสมัยเอโดะ สัญลักษณ์ประจำชาติของประเทศญี่ปุ่น   ภูเขาที่มีความศักสิทธิ์ในสมัยโบราณ เป็นต้น

แต่การได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของภูเขาไฟฟูจิ นั้นมีเงื่อนไขว่าต้องยื่นมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมที่เรียกว่าใบรายงานสถานะการอนุรักษ์ธรรมชาติต่อ UNESCO ภายในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2016 จะว่าไปแล้วก็คล้ายกับว่าต้องส่งการบ้านเลยนะเนี้ย  สำหรับมาตราการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของภูเขาไฟฟูจิต่างๆนั้นเชื่อมโยงกับการรักษาธรรมชาติให้คงอยู่เพื่อเป็นสัญลักษณ์และวิวทิวทัศน์ที่งดงามตลอดไป

ที่มา :  https://th.wikipedia.org/





ด้านบนจุดชมวิวมีที่ถ่ายภาพหลายที่ (ตรงนี้เรียกว่ากระดิ่งสายฟ้า)
The Bell of Tenjo ซึ่งมีความเชื่อกันว่า ถ้ามองภูเขาไฟฟูจิผ่านกรอบรูปหัวใจแล้วสั่นกระดิ่ง คำอธิษฐานจะเป็นจริง จุดนี้จึงมีนักท่องเที่ยวมาสั่นกระดิ่งกันมากมาย 


บรรยากาศฟ้าหลัวนิดๆ เลยถ่ายติดแค่คน (ด้าานข้างขวาคือป้ายอธิษฐานของนักท่องเที่ยว)


ทานุกิจอมวายร้าย กับ กระต่าย





จำเรื่องเก่า "Kachi Kachi Yama" ได้หรือไม่? 

"Kachi Kachi Yama (かちかち山) หรือ กระต่ายล้างแค้น เป็นเรื่องราวของทานุกิตัวร้ายที่ไปทำลายไร่นาของคุณตาและยายที่เป็นเพื่อนกับกระต่าย แล้วมันถูกจับมัดไว้เพื่อทำเป็นอาหารในภายหลัง พอคุณตาออกไปข้างนอก ทานุกิจึงอ้อนวอนขอชีวิตจากคุณยาย แทนที่มันจะสำนึกบุญคุณกลับฆ่าคุณยายและจับปรุงเป็นอาหาร ทานุกิแปลงร่างเป็นคุณยาย เพื่อรอคุณตากลับมาพร้อมเสิร์ฟอาหารที่ปรุงด้วยคุณยายให้คุณตาทาน หลังจากนั้นมันก็หนีไป คุณตาเศร้าโศกเสียใจมาก กระต่ายเพื่อนรักจึงอาสาที่จะล้างแค้นให้ จึงทำทีไปตีสนิทกับเจ้าทานุกิ ออกอุบายว่าไปจัดแคมป์ไฟกัน กระต่ายเดินตามทานุกิที่แบกฟางแห้งไว้บนหลัง พร้อมกับกระเทาะหินเพื่อจุดไฟให้ฟางที่หลังของทานุกิไหม้ แล้วทานุกิก็โดนไฟลวก กระต่ายจึงใช้ยาที่ทำจากพริกทาลงไปที่หลังของทานุกิ กระต่ายยังไม่ลงมือฆ่าทานุกิในทันใด จึงท้าทายให้ลองแข่งขันพายเรือข้ามทะเลสาบ กระต่ายสร้างเรือด้วยไม้อย่างดีทนทานและปลอดภัยอย่างชาญฉลาด ส่วนทานุกิตัวร้ายใช้ดินปั้นเรือโดยไม่คิดอะไรมากมาย จนถึงเวลาแข่งเรือของทานุกิหักกลางลำเพราะดินเริ่มละลายเมื่อโดนน้ำ ทานุกิจึงตกน้ำและร้องให้กระต่ายช่วย กระต่ายจึงประกาศออกไปว่าเค้าคือเพื่อนสนิทของคุณตาและคุณยาย นี่คือการล้างแค้นของการกระทำที่เหี้ยมโหดของแก"

ที่มา :  https://www.marumura.com/top-japanese-tales/



ทางเดินป่า


วิวทะเลสาบกาวากูชิโกะด้านล่าง


สรุปแล้ว ... วันนี้ไปเที่ยวชมเจ้าฟูจิซังหลายที่หลายจุด ซึ่งแต่ละจุดก็คือจุดชมภูเขาไฟฟูจิยอดนิยมทั้งนั้น ที่จริงเจ้าของบล๊อกก็เคยมาแล้วครั้งหนึ่ง เคยจะขึ้นไปบนเขาฟูจิชั้นที่ 5 แต่ไปได้แค่ชั้น 2 ก็เล่นน้ำแข็งหิมะกันที่นั่น แต่มาคราวนี้พาคุณยายมาเลยจัดโปรแกรมมาอีก แต่ก็ได้วิวดีครับ เราโชคดีมากๆที่ตอนไปทะเลสาย Yanaka ได้ชมเจ้าฟูจิซังแบบสุดสวย แม้แต่คนญี่ปุ่นยังบอกว่าเราโชคดีมากๆเลย... วันนี้เหนื่อยครับปียบันได้ขึ้นเจดีย์ชูเรโตะกว่า 400 ขั้น แถมเดินในหมู่บ้านอีก แต่ก็สนุกครับวันนี้เราพักที่ Kawaguchigo Business & Resort Sawa Hotel ครับ พักเอาแรงพรุ่งนี้เดินทางไกลไป Takayama.


💘💘 ขอบคุณที่ตามอ่านครับ 💘💘



ไม่มีความคิดเห็น: