อ่าน : เดอรัมในหน้าร้อน
สนามบิน Schiphol Amsterdam
อากาศวันที่ 2 ธันวาคม 2017 ปิดจนทำให้เครื่อง Delay
เราได้บินจาก Schiphol Airport ไปลอนดอน Heathrow Airport เวลา 14.21 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที เราถึงลอนดอนตามเวลา ซึ่งช้ากว่าที่อัมสเตอร์ดัม 1 ชั่วโมง แต่กว่าที่เราจะได้บินจากเทอร์มินัล 5 สนามบินฮีตโทรว์ ก็เกือบ 5 โมงเย็น เมือ่ไปถึงเมืองนิวคาสเซิ่ลก็มืดแล้ว (หน้านี้ที่อังกฤษจะมืดเร็ว ประมาณสี่โมงเย็นก็มืดแล้ว หลังจากรับกระเป๋าเสร็จ เราก็หาซื้อซิมโทรศัพท์ของอังกฤษเพื่อใช้โทรหาบริษัทรถที่เราเช่าไว้ ซึ่งก็อยู่ห่างสนามบิน 5-6 กม. ทีเดียว ... รอนานหน่อยเพราะหากันไม่เจอ อากาศวันนั้นหนาวสุดๆ ออกไปยืนด้านนอกอาคารได้ไม่นานก็ต้องเผ่นกลับ จึงคราดกันกับรถในรอบแรกและรถก็จอดแช่รอเราไม่ได้ด้วยสิ เราจึงต้องตามกันครั้งที่ 2 และไปรอกันที่จุดเลย คราวนี้ได้
ครั้งแรกเราเช่ารถ Ford Focus แบบดีเซลเอาไว้ เพราะเห็นที่เก็บของด้านหลังกว้างหน่อย แต่พอไปเขาเอาเจ้าเบนซ์ B200d แบบดีเซลเกียร์ออโต้ไว้ให้เรา แต่เมื่อเช็ครถแล้วปรากฏว่ามีรอยเฉี่ยว ขูด หลายที่ แต่ดีที่เราทำประกันแบบ Full Cover และส่งแบบไม่ต้องเติมน้ำมันเต็มถัง ซึ่งก็ไปทำกันครงที่รับรถนั่นแหละ ต่อรองแล้วแพงกว่าค่าเช่ารถ 10 วันอีก แต่ดีตรงที่เราไม่ต้องเสียเวลามาระวังมากมาย และสบายใจโดยไม่ต้องวาง Deposit 1250 ปอนด์ อีกอย่างเมื่อกลับบ้านไม่ต้องกลัวเขาหาเรื่องให้จ่ายเงินอีก.
รถที่จะใช้ในอีก 10 วันข้างหน้าเป็นเมอร์ซิเดส B200d เครื่องดีเซล เกียร์ออโต้
The New Gorge Hotel ที่พักในนิวคาสเซิ่ล
รับรถเสร็จทดสอบระบบต่างๆก่อนออกขับจริง เพราะมีอะไรจะได้ให้เขาแก้ไขก่อน อีกเรื่องที่สำคัญคือวิธีการติดต่อสื่อสารในกรณีฉุกเฉินครับ ถามไถ่ให้เรียบร้อย (แต่เราแน่ใจว่าเขาซ่อน GPS ไว้ติดตามอยู่แล้ว เผื่อกรณีเราไม่รู้จักสถานที่) .... หลังรับรถและทำสัญญาเพิ่มเสร็จก็เลยหกโมงเย็นไปแล้ว ในรถเบนซ์ที่เราเช่าไว้มี GPS ให้ด้วยไม่ต้องเช่าเพิ่ม แต่เราใช้ไม่ถนัดอ่ะครับ เลยงัดเอา Garmin ที่เรานำไปจากเมืองไทยมาใช้ โดยซื้อแผนที่ยุโรปและอังกฤษไปจากบ้านเราเลย โดยรวมก็ใช้ได้ดีนะ ... เราเซ็ทจุดหมายไปที่ The New Gorge Hotel, 88 Osborne Rd, Newcastle upon Tyne NE2 2AP สหราชอาณาจักร โดยใช้ Post Code NE2 2AP เมืองนิวคาสเซิ่ลนั่นแหละครับ จากนั้นก็ตามไป
ถึงที่พักมืดแล้ว 20.30 น. มั๊ง ขับไปใกล้แล้วจอดลงไปถามว่าใช่หรือไม่ และที่จอดรถอยู่ตรงไหน เผอิญเราไปถึงที่จอดรถเต็มอีกด้วย แต่หนุ่มที่รับเราบอกว่ารถที่เห็นอยู่นั้น เขามา weekend เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ว่าง แต่วันหยุดแบบนี้เราสามารถจอดในที่จอดของเมืองได้ฟรีหลัง 18.00 น. เราเลยได้ที่จอดห่างจากที่พักไปประมาณ 50 เมตร (ที่จอดรถในอังกฤษเป็นอะไรที่หายากมากๆ และค่าจอดแพงด้วย) ห้องพักเป็นแบบไม่มีอาหารเช้า พื้นที่ก็ถือว่าโอเคสำหรับราคาประมาณ 4000 กว่าบาทต่อคืน สำหรับสามคน
ไปเยี่ยมเพื่อนชาวอังกฤษที่เมือง Bishop Aukland
เช้าวันที่ 3 ธันวาคม 2017 เราถือโอกาสไปเยี่ยมบ้านคนที่เรารู้จัก ที่มือง Bishop Auckland ลงไปทางใต้เมืองนิวคาสเซิ่ลประมาณ 30 ไมล์ เป็นวันแรกที่เราได้ทานอาหารไทย ซึ่งเจ้าภาพจัดให้แบเต็มสุดๆ รวมทั้งไก่งวงอบด้วย ก็ขอขอบคุณผ่านเวปนี้อีกครั้งครับ .... คุยกันสัพเพเหระได้ถึงบ่ายสองครึ่งเราก็ออกเดินทางไปเดินชมเมืองเดอรัมกัน ซึ่งก็ห่างจาก Bishop Auckland ขึ้นไปทางนิวคาสเซิ่ล 15 ไมล์ ถึงเดอรัม ประมาณบ่ายสาม เราจอดรถไว้ Park & Ride ด้านเหนือของเมือง แล้วซื้อตั๋วรถบัสจากตรงนั้นเข้าเมือง คนละ 1 ปอนด์ ส่วนค่าจอดฟรี (ที่ Park & Ride เขาจะมีบริการรถเข้าเมืองแบบไป-กลับ ค่าตั๋วก็ไม่แพง ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนให้ใช้ที่จอดรถนอกเมืองและเข้าเมืองโดยขนส่งสาธารณะ เพื่อรถความแออัดของการจราจรในเขตเมือง)
เดินข้ามสะพานข้ามแม่น้ำเวียร์เข้าย่านใจกลางเมือง
เดอรัม (Durham)
เป็นเมืองเล็ก ๆ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ อยู่ห่างจากเมืองนิวคาสเซิลอะพอนไทน์ลงมาทางใต้ประมาณ 25 กม. ตั้งอยู่บนแม่น้ำเวียร์ (River Wear) ซึ่งไหลล้อมรอบเมืองทั้งสามด้าน เดอรัมเป็นที่รู้จักกันดีจากมหาวิหารเดอรัมและปราสาทแบบโรมานเนสก์ที่ตั้งอยู่ในเมือง ซึ่งยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกโลก และมหาวิทยาลัยเดอรัม ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่เป็นอันดับสามของอังกฤษ (อันดับ 1 คือมหาวิทยาลัย Oxford, อันดับ 2 คือมหาวิทยาลัย Cambridge)
River Weir
Charles W.V. Stewart Monument
Durham Market Square
มีร้านอาหารไทยด้วย
เดอรัมมีชื่อต่างๆ กันไปต่างๆ ตลอดมาในประวัติศาสตร์ บ้างก็ว่าเดิมมาจากภาษานอร์ดิค “Dun Holm” ต่อมาเปลี่ยนไปเป็น “Duresme” โดยชาวนอร์มันและรู้จักกันในชื่อภาษาละตินว่า “Dunelm” ชื่อ “Durham” ที่ใช้ในปัจจุบันมาใช้กันในภายหลัง นักประวัติศาสตร์เกี่ยวกับตะวันออกเฉียงเหนือโรเบิร์ต เซอร์ทีส์ (Robert Surtees) ลำดับการเปลี่ยนชื่อในหนังสือ “History and Antiquities of the County Palatine of Durham” แต่ก็กล่าวว่าเป็นไปได้ยากที่จะทราบว่าชื่อที่ใช้ในปัจจุบันเริ่มขึ้นเมื่อใด
ที่มา : th.wikipedia.org/wiki/เดอรัม
ปราสาทเดอรัม
ปราสาทเดอรัม (Durham Castle) เป็นปราสาทแบบนอร์มันในเมืองเดอรัม เทศมณฑลเดอรัม สหราชอาณาจักร ตั้งอยู่ตรงข้ามกับวิหารเดอรัม บนยอดเนินเขาเหนือแม่น้ำเวียร์บนคาบสมุทรเดอรัมปราสาทนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11 เพื่อปกป้องบิชอปแห่งเดอรัมจากการถูกโจมตี เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์ของปราสาทแบบ mott and bailey ที่ได้รับอิทธิพลของนอร์มัน ... ปราสาทนี้ห้องโถงขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นบิชอปแอนโทนี เบค เมื่อต้นศตวรรษที่ 14 เคยเป็นห้องโถงในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในเกาะบริเตน จนกระทั่งบิชอปริชาร์ด ฟอกซ์ ปรับขนาดห้องโถงให้เล็กลงเมื่อสิ้นศตวรรษที่ 15 ห้องโถงปัจจุบันมีความสูง 14 เมตร และยาวมากกว่า 30 เมตร
ปราสาทเดอรัม
ปราสาทเดอรัมและมหาวิหารเดอรัมได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม
วิหารเดอรัม (Durham Cathedral)
ซ้ายวิหาร Durham ขวา : ห้องสมุดมหาวิทยาลับ Durham (อยู่ตรงกลางระหว่างปราสาท และมหาวิหาร)
การไปชมปราสาทต้องเดินขึ้นตามถนนแคบๆปูด้วยหินแบบเมืองเก่าในอังกฤษทั่วไป โดยต้องขึ้นเนินไปพอสมควร พอถึงจะเป็นสนามโล่งมองเห็นมหาวิหารอยู่ฟากหนึ่งของสนาม หน้าวิหารจะเป็น Symmetry Yard หรือที่ฝังศพนั่นแหละครับ เดินเข้าไปชมวิหาร เมื่อจบแล้วเดินออกมาจะมีเนินที่มีูปไม้กางเขน ริมกำแพงด้านหลังสามารถชมวิวเมืองในมุมสูงได้ พอผ่านตรงนั้นไปจะเห็นทางเข้าห้องสมุดของมหาวิทยาลัยเดอรัม เลยไปเป็นทางเข้าชมปราสาทเดอรัม แต่เสียดายเขาปิดครับ เดินอ้อมสนามแล้วกลับลงสู่กลางเมืองโดยใช้เส้นทางเดิม
เดินชมเมืองและปราสาทจนเย็นแล้วจึงไปรอขึ้นรถบัสที่จะไปปาร์คแอนไรด์ ที่เราจอดรถไว้ ตอนขึ้นรถต้องแสดงตั๋วให้คนขับดูหน่อย ถึงที่จอดรถเราจึงแยกย้ายกันกลับ เราขับกลับที่พักเมืองนิวคาสเซิ่ล พักเอาแรงไว้เดินทางไกลไปเที่ยวเมืองเอดินเบอร์กในวันพรุ่งนี้.
💘💘💘ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ💘💘💘
ถนนเดินขึ้นปราสาท Durham
___________________
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น