เราเดินทางในฮอกไกโดบล๊อกนี้เป็นบล๊อกที่ 6 แล้วนะครับ สำหรับบล๊อกนี้จะพาคุณๆไปเที่ยวสกีรีสอร์ทที่คนไทยเป็นเจ้าของในเกาะฮอกไกโดครับ นั่นก็คือ Kiroro Ski Resort ซึ่งที่นั่นมีโรงแรมสองแห่งอยู่ไม่ไกลกันนัก คือ Sheraton และ A Tribute Portfolio Hotel โดยวันนี้ (9 กพ. 17) เราจะพักค้างคืนที่ A Tribute Portfolio ซึ่งอยู่ห่งจาก Sheraton ซึ่งเป็นสกีรีสอร์ทเพียงนั่ง shuttle bus 5 นาที
แผนที่เดินทาง
จาก Sapporo เรานั่งรถไฟมาลงที่สถานี Otaruchikko Station ก่อนถึงสถานี Otaru เพียงหนึ่งสถานี เรามาถึงสถานีโอตารุชิกโก้ก่อน 8.30 น. เพราะจะมาเสี่ยงดวงขึ้นรถ Shuttle bus ของโรงแรมซึ่งจะมีบริการเที่ยว 8.30 น. และ 9.30 น. โดยเราต้องจองมาก่อนด้วย แต่เมื่อเราอยู่ที่ซัปโปโร เราพยามจองเที่ยว 9.30 น.แต่ในเนทบอกว่าเต็ม เราเลยใช้วิธีเสี่ยงดวงเอาว่าเที่ยวแรกจะมีที่นั่งให้เราไหม
ตอนแรกนึกว่ามีแต่เราสองคนที่ไม่ได้จองที่นั่งมา แต่มีฝรั่งอีก 2 คนและเกาหลีอีกคนไม่ได้จองมาเช่นกัน เขาจึงให้ priority กับคนที่จองมาก่อน วันนั้นโชคดีหน่อยครับเที่ยว 8.30 น. มีรถ shuttle bus ขนาดกลาง 2 คัน คันที่ 2 พอมีที่นั่งเหลือสำหรับพวกเราที่มาเสี่ยงดวง...ก็ถือว่าโชคดีไปครับ ไม่งั้นคงต้องนั่งแท๊กซี่ขึ้นไปประมาณ 26 กม. ล่ะครับ
ป้ายนี้ติดที่ทางออกสถานี Otaru Chikko
เมื่อเราเดินทางมาลงที่สถานี Otaruchikko พอออกจากตัวสถานีมาที่หน้าโต๊ะขายตั๋ว ก็จะเห็นป้ายด้านบนที่บอร์ด (ตอนแรกก็ไปถามเจ้าหน้าที่ JR เหมือนกัน เขาเลยบอกให้ไปอ่านป้ายนี้) .... ที่จอดรถ Shuttle bus ของโรงแรมอยู่ข้างสถานีรถไฟเลย เป็นแค่ป้ายจอดรถ ไม่บอกว่าไปที่ไหน สายอะไรด้วย .... ก็ถามคนอีกแหละว่าเจ้ารถของโรงแรมคิโรโระนั่นจอดที่ไหน (ก็ใกล้ๆที่ถามนั่นแหละ) ... ยืนลุ้นว่าจะได้ไปไหม ท่ามกลางกองหิมะพะเนินเทินทึก หนาวก็หนาว สุดท้ายก็ได้ไปแต่เช้าเลย
A Tribute Portfolio Hotel
เส้นทางที่ออกจากสถานีรถไฟขึ้นไปที่รีสอร์ทเป็นทางขึ้นเขาที่สองข้างทางเต็มไปด้วยหิมะที่ทับถมสูงเป็นเมตร - 2 เมตรเลยทีเดียว บางช่วงที่ผ่านไปหิมะยังลงบางๆอยู่เลย พอเข้าถึงโรงแรมก็เจออย่างภาพที่เห็นแหละครับ แปลกตาและสวยงามสำหรับคนเมืองร้อนอย่างเรามาก หิมะขาวนุ่มเป็นปุยเหมือนคำที่เขาโฆษณาไว้เลย ... จัดแจงเอากระเป๋าไปฝากไว้ที่รีเซ็ปชั่นก่อนเพราะยังไม่ถึงเวลาเช็ค-อิน แล้วเลือกเอาสัมภาระจำเป็นเช่นกล้องเตรียมขึ้น Shuttle bus ต่อไปที่ Mountain Club โรงแรม Sheraton ซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกันกับที่เราพัก คือ กลุ่ม Property Perfect
ด้านในล้อบบี้
จาก A Tribute Portfolio Hotel ใช้เวลานั่ง shuttle bus เพียง 5 นาทีก็มาถึงหน้า Mountain Club แล้ว .... ที่นี่จะเป็นที่สอนการเล่นสกี และสโนว์บอร์ด เริ่มตั้งแต่ beginner เลย แต่ต้องบุ๊คเข้ามาพร้อมรายละเอียดว่าจะให้ใครเป็นคนสอน ซึ่งที่นี่มีคนที่พูดไทยได้ก็มีรวมถึงครูฝึกคนไทยด้วย...แต่เราขอเป็นผู้ชมก่อนละกันครับเที่ยวนี้
ไปเจอน้องๆที่เคยทำงานด้วยกันที่นั่นด้วย
กองหิมะหน้า Mountain club
ด้านใน clubhouse และที่ลานฝึกสกี
รถ shuttle bus มาส่งเราที่หน้า Mountain Club ใกล้ๆกับโรงแรม Sheraton จากนั้นเราเดินเข้าไปชมห้องเช่าอุปกรณ์ ที่จำหน่ายบัตรสำหรับขึ้นกระเช้าไปที่ Mountain Top ซึ่งบนนั่นมีทั้งร้านอาหาร และจุดเริ่มต้นของการเล่นสกีลงมาจากยอดเขา....ก่อนออกไปชมเขาฝึกเล่นสกี เราแวะร้านการแฟในคลับเฮาส์ก่อน และถือโอกาศทานอาหารเป็นมื้อสำรองก่อนเที่ยงซะเลย
แผนผังเส้นทางเล่นสกี และด้านหลังคือ Gondola Station ที่จะขึ้นไปด้านบนยอดเขา
ที่ลานฝึกและจุดสิ้นสุดของการเล่นสกีลงมา
ครูฝึกกับลูกศิษย์ตัวเล็ก
ด้านซ้ายมือคือ Gondola Station
เราเดินถ่ายภาพที่ลานฝึกพร้อมกับคนอื่นๆซักพักใหญ่ๆ ก็เดินไปขึ้นกระเช้าที่สถานี Gondola ซึ่งพวกที่ขึ้นไปเล่นสกีลงมาก็ขึ้นไปเหมือนกันกับเรา โดยเอาตั๋วที่เราซื้อขึ้นไปไปโชว์เจ้าหน้าที่เฝ้าทางขึ้นด้วย ตั๋วขึ้น-ลง ราคา 2000 เยนต่อคน .... กระเช้าขึ้น หรือ Lift มีขึ้นหลายเส้นทาง ซึ่งจะมุ่งไปสู่ยอดเขาหลักๆ 3 ลูก คือ Nakamine Peak ที่ความสูง1,090 เมตร, Asari Peak ที่ความสูง1,180 เมตร, และ Yoichi Peak ที่ความสูง 900 เมตร (รายละเอียดอื่นลองเข้าไปดูต่อที่ https://www.kiroro.co.jp/stay/ )
สำหรับเราที่ไม่เล่นสกีเลยเลือกขึ้น Asari Peak เพื่อตามรอยแฟนเดย์ อีกที่หลังจากไปมาแล้วที่ยอดเขาฮาโกะดาเตะ โอตารุที่พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีและริมคลอง วันนี้จะไปสั่นระฆังแห่งความรักกับเขามั่ง.
กระเช้าผ่านเส้นทางการเล่นสกี
ในกระเช้า
จากกระเช้ามองลงไปเห็นโรงแรม A Tribute Portfolio ด้านล่าง
ตามทางที่ผ่าน
กำลังเตรียมตัวสกีลงจากยอดอาซาริ (Asari Peak)
ถึงแล้วระฆังแห่งความรัก หรือ Love Bell
ครูฝีกกับลูกศิษย์บนยอดเขา
บนยอดเขา Asari มองผ่านกระเช้า
หลังจากเดินเล่นถ่ายภาพจนเหนื่อยและหนาวมากขึ้นแล้ว เราก็นั่งกระเช้าหรือ Lift ลงมาด้านล่างที่ลานฝึกสกี ก่อนไปเดินถ่ายภาพที่หย้าโรงแรมเชอราตัน และเห็นธงไทยบนยอดเสาที่นั่นด้วย .... จากนั้นก็นั่ง Shuttle bus กลับไปที่ A Tribute Portfolio Hotel ด้านล่างเพื่อเล่นกิจกรรมอื่นๆ
ด้านหน้า Mountain club
Sheraton Hotel
เรากลับมาถึง A Tribute Portfolio Hotel ตอนบ่ายๆ ซึ่งยังมีเวลาอีกหลายชั่วโมงก่อนมืด เราไปทานมื้อเที่ยงที่โรงแรม (ร้านอาหารมีแต่ของโรงแรม) ก่อนออกไปเล่นของเล่นรอบๆโรงแรม หรือ ที่นี่คือ Nature Center ซึ่งจะมีทั้งนั่งเรือยางบนหิมะ เรือก้านกล้วยบนหิมะ Cross Country และ Snow Mobile ลานหิมะสำหรับเด็กๆ ตลอดจน On sen
Snow Mobile
วันนี้เราเลือกขับเจ้า Snow Mobile (เหมือนในภาพ) ซึ่งมีให้เลือกทั้งรอบใหญ่ 2 รอบ ราคา 2000 เยน รอบสั้น 2 รอบราคา 1000 เยน .... ก่อนขับเจ้าหน้าที่ในภาพจะอธิบายให้เราทราบวิธีใช้และกรณีฉุกเฉิน ซึ่งเขาจะให้เราคล้องสายสัญาณ safety ไว้ที่ข้อมือด้วย ขับแล้วก็สนุกดีครับ
Cross Country
เหนื่อยมาก็แวะออนเซ็นผ่านประตูนี้
ป่าไม้รอบๆโรงแรม A Tribute Portfolio
เราใช้เวลาในช่วงบ่ายเดินเล่นรอบๆ A Tribute Portfolio Hotel ก่อนเข้าที่พักและลงมาทานมื้อเย็นที่โรงแรม ซึ่งมีห้งอาหารให้เลือก 3 ห้อง มีทั้งแบบอิตาลี่ ญี่ปุ่น และทั่วไป .... ในบริเวณโรงแรมเขามีตลาด Kiroro ด้วย หรือจะเลือกไปออนเซ็นก็ยังได้ ก่อนขึ้นไปพักผ่อนเราให้โรงแรมเขาเรียกแท๊กซี่มารับเราในตอนเช้าประมาณ 9.00 น. สาเหตุที่เราต้องไปแท๊กซี่เพราะเรามีโปรแกรมที่จะเดินทางไปเที่ยวต่อที่เมือง Chitose ใกล้สนามบิน และทางโรงแรมเขาไม่มีรถ Shuttle bus ในช่วงเช้า จะมีก็โน่นเลย 15.30 และ 16.30 น.
หลังอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นซึ่งพ่วงมากับค่าโรงแรม (เราสามารถเลือกได้ทั้ง 3 แบบคือยุโรป อิตาลี่ และญี่ปุ่น) เราก็เดินทางสู่สถานีรถไฟ Otaruchikko เราเลือกนั่งรถเร็วสายโอตารุ-ชิโตเสะแอร์พอร์ต ซึ่งผ่าน sapporo .... เรานั่งแท็กซี่เอากระเป๋าไปฝากไว้ที่โรงแรม Grand Hotel ก่อนออกเดินทางไปเที่ยวต่อ.
💘💘ขอบคุณที่ตามอ่านครับ💘💘
ทางลงเขาก่อนเข้าสู่สถานี Otaruchikko
_______________