วันจันทร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2560

ฮอกไกโด หน้าหนาว 5 (โอตารุ)



เรื่องราวของการเดินทางไปเที่ยวเกาะฮอกไกโดหน้าหนาวของเราก็มาถึงบล๊อกที่ 5 แล้วนะครับ ซึ่งบล๊อกนี้จะพาคุณๆเดินทางไปชมเมืองโอตารุ (OTARU) ในบางส่วน ... เราเดินทางจากซัปโปโร มาที่นี่โดยรถไฟครับ ซึ่งใช้เวลาเดินทาง แค่ 49 นาทีเท่านั้นเอง สำหรับรถไฟจากซัปโปโร - โอตารุ มีวิ่งทั้งวันจาก 06.16 ไปหมดประมาณ 21.00 น. ส่วนจากโอตารุ - ซัปโปโร 05.54น. ไปหมดเอาประมาณ  19.56 น. มีทั้ง Local line และ รถเร็ว..นั่งเพลินๆชมทะเลไปหน่อยเดียวก็ถึงสถานีโอตารุแล้ว แต่อย่าเผลอไปลงที่สถานี Otaruchiko นะ เพราะนั่นคือสถานีแรกที่ถึงเมืองโอตารุ สถานีที่ใกล้ที่เที่ยวคือสถานีโอตารุครับ

หน้า JR Otaru

ก่อนที่จะมาที่นี่เราพยามจองที่พักจากเมืองไทยแล้ว ราคาสำหรับกระเป๋าสะตังค์เรานั้นเต็มหมด จะมีก็แต่ประเภทแพงมากๆ เราเลยตัดสินใจพักที่เมืองซัปโปโร ทั้งๆที่วันที่ 9 กพ. เรามีแผนที่จะขึ้นไปพักที่ Kiroro Ski Resort  .... ฉะนั้นเราเลยต้องจองที่นั่งรถไฟทั้งและกลับซัปโปโรไว้เลย เวลาที่จะเที่ยวโอตารุเลยเหลือแค่ครึ่งวันเอง



ลงจากสถานีรถไฟเดินไปทางคลองโอตารุ เจอเมืองที่เต็มไปด้วยหิมะแบบนี้

จะว่าไปแล้วคนที่เขาอยู่เมืองที่อากาศหนาวๆแบบโอตารุนี่ เขาก็คิดอะไรมาเพื่อคลายเครียดในหน้าหนาวดีเหมือนกันนะ เช่น ตามสวนสาธารณะที่ท่วมไปด้วหิมะ เขาก็จัดการปั้นหิมะให้เป็นรูปต่างๆ ให้ผู้คนได้เที่ยวชม ช่องๆที่เห็นเดี๋ยวก็มีคนมาจุดเทียนครับ

เดินตรงลงไปเรื่อยๆจะผ่านร้านอาหารทะเลมากมาย มีทั้งประเภทย่างจิ้มน้ำซอส โดยให้เราไปชี้ในกะบะ หรือตู้ แล้วร้านเขาจะเอาไปย่างให้ (ไม่เหมือนที่อาซาฮิกาว่า เมืองนั้นชอซาซิมิมากๆและที่ขาดไม่ได้คือมีไข่ปลาแซลมอนสดๆโปะหน้าจานข้าวเสมอ) .... อากาศเย็นๆเราแวะร้านอาหารที่เป็นเรือนไม้เก่าๆเพื่ออาศัยฮีตเตอร์และทานอาหารจานร้อนไปในตัว ราคาก็โอเคนะครับสำหรับเมืองท่องเที่ยวแบบนี้..เสียดายไม่ได้ถ่ายภาพมาให้ชม

ทานอาหารเสร็จเราก็ไปเริ่มต้นเที่ยวชมคลองกันจุดแรกเลยที่ สะพานอาซากุสะ (Asakusa)  อยู่ติดกับซุ้ม Information ย่อย ซึ่งเป็นกระท่อมไม้ที่มีนาฬิกาบอกเวลาและอุณหภูมิขณะนั้น ... คนเยอะจริงๆ แต่โชคดีได้หนุ่มญี่ปุ่นช่วยถ่ายภาพให้.






คลองโอตารุจากสะพานอาซากุสะ (ติดกับ Tourist Information)



โอตารุ (OTARU)
โอตารุ เมืองเล็กๆ แต่เสน่ห์ไม่เล็ก ที่อยู่บนเกาะฮอกไกโด ด้วยเมืองขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองโรแมนติกมาก ที่ใครๆ ก็อยากไป แค่เพียงมีเวลาเหลือนิดหน่อยก็สามารถเดินเที่ยวเล่นไปทั่วเมืองแล้ว แต่ที่สำคัญที่ไม่ควรพลาดก็คงเป็นจุดขายของเมืองนี้ที่จะต้องไปเยือนให้ได้ เพราะคุณจะได้พบกับบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติกที่เขาล่ำลือกัน แต่จะเป็นที่ไหนนั้น เราไปทำความรู้จักกับเมืองโอตารุกันก่อนเลย

โอตารุ (Otaru) เป็นเมืองเล็กๆ ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองซัปโปโรห่างออกไปประมาณ 40 กิโลเมตร เป็นเมืองเล็กๆ ที่สามารถใช้เวลาหนึ่งวันเดินเทียวเล่นได้อย่างสบายๆ ในอดีตเมืองโอตารุเป็นเมืองท่าที่สำคัญเทียบเท่ากับเมืองฮาโกดาเตะ แต่จากการพัฒนาที่ช้ามากทำให้ความเจริญไปอยู่ที่ซัปโปโรเป็นส่วนใหญ่

ช่วงต้นของยุคล่าอาณานิคมฮอกไกโด (ปลาย 1800) โอตารุทำหน้าที่เป็นท่าเรือขนส่งสินค้า และท่าประมงที่สำคัญ ... สามารถเดินทางจากซัปโปโรได้อย่างสะดวกโดยรถไฟ อาคารต่างๆของเมืองยังคงเป็นโกดังเก่า อดีตอาคารสำนักงานของบริษัทชิ้ปปิ้ง และการค้า






ถนนซาไกมาจิ (Sakai-Machi)

เป็นถนนที่รวบรวมบรรดาร้านขายของที่ระลึกของฝาก ร้านค้าต่างๆ จะเป็นอาคารเก่าโบราณทั้งสองข้างทาง และของฝากที่ขึ้นชื่อของถนนเส้นก็คือ บรรดาเครื่องแก้วและกล่องดนตรี โดยเฉพาะเครื่องแก้วนั้นมีให้เลือกมากมายหลากหลายรูปแบบตั้งแต่เล็กไปจนถึงใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ตัวเล็กๆ ไปจนถึง แก้วน้ำ แจกัน ตะเกียง เป็นต้น นอกจากนี้แล้วก็ยังมีแก้วคริสตัลสวยงามที่ส่องประกายยั่วใจให้ได้เสียสตางค์ซื้อกันด้วย








บนถนนซาไกมาจิ (Sakai-Machi)



พิพิธภัณฑ์และร้านขนมกล่องดนตรี (Otaru Orgel Emporium)

ตั้งอยู่ภายในตึดอิฐแดงเก่าสองชั้น ภายในเปิดขายบรรดากล่องดนตรีสำเร็จรูปที่สวยงาม จุดเด่นของที่นี้อยู่เราสามารถประดิษฐ์กล่องดนตรีได้เองตามใจชอบ แต่แต่การเลือกกล่องดนตรี ตุ๊กตาประดับ และเพลงที่จะใส่ลงไปในกล่องดนตรีของเรา โดยราคาก็จะแตกต่างกันออกไปและมีหลายราคาให้เลือกซื้อเป็นของฝากได้ตามใจชอบ แต่อีกอย่างที่น่าสนใจของร้านนี้คือ ที่ด้านหน้าของร้านจะมีนาฬิกาไอน้ำโบราณ ที่มีเพียงแค่สองเรือนในโลกเท่านั้น คือที่ประเทศญี่ปุ่นและประเทศแคนาดา ตั้งอยู่ให้ผู้คนได้ไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึก โดยจะส่งเสียงเพลง และพ่นไอน้ำออกมาเพื่อบอกเวลาทุกๆ ชั่วโมงครับ





นาฬิกาไอน้ำโบราณ









จากพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี เราเดินกลับไปที่คลองอีกครั้ง เพื่อเก็บภาพ แต่กลับอีกคนละถนน ตามทางที่ผ่านจะมีร้านขายของที่ระลึกหลายร้าน รวมทั้งร้านขายสาเก แถมมีให้ชิมฟรีด้วยแวะเข้าไปชิมได้นะครับ แต่เวลาซื้อไปซื้อที่สนามบินน่าจะดีกว่าเพราะไม่ต้องหอบไปไกล..








เดินเลียบคลองที่ได้ชื่อว่าโรแมนติกสุดๆของเมือง ได้เห็นชาวเมืองกำลังมาเตรียมที่จะจุดเทียนในโคมไฟน้ำแข็งที่ตกแต่งโคมไว้สวยงาม .... ถ้าเราขอเอกสารที่จุด Information หรือจากสถานีรถไฟ เขาจะแนะนำว่าเราควรเดินเที่ยววนไปแบบไหนครับ ... สิ่งที่น่าชมอีกอย่างหนึ่งของคลองโอคารุ คือเทศกาลแสงไฟริมคลองโอตารุครับ


เทศกาลแสงไฟริมคลองโอตารุ (Otaru Snow Light Path Festival) 
เป็นเทศกาลในฤดูหนาว จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนกุมภาพันธ์(ใกล้เคียงกับเทศกาลหิมะซัปโปโร) โดยเมืองโอตารุจะประดับประดาไปด้วยแสงไฟ และรูปปั้นหิมะขนาดเล็ก เป็นระยะเวลา 10 วัน บรรยากาศของเมืองที่ปกคลุมด้วยหิมะ รวมกับแสงจากโคมไฟระยิบระยับทำให้รื่นรมย์ ภายในเมืองจะแบ่งออกเป็น 2 พื้นที่หลักในการจัดเทศกาลในช่วงเวลา 17:00-21:00 คือ Unga Kaijo และ Temiyasen Kaijo (ตั้งอยู่ไม่ไกลกันนัก สามารถเดินเพียง 15 นาทีก็ถึง เพื่อชื่นชมบรรยากาศระหว่างทาง) นอกจากนี้ชาวบ้านในพื้นที่ก็จะตกแต่งร้านค้าและที่อยู่อาศัยของพวกเขาด้วยโคมไฟบริเวณด้านหน้า
พื้นที่ Unga Kaijo ตั้งอยู่บนถนนยาว 300 เมตร ริมคลองโอตารุ(Otatru Canal) โกดังเก่า และโคมไฟก๊าซแบบโบราณริมคลอง ทำให้บรรยากาศโรแมนติกมากขึ้น ริมทางยังมีรูปปั้นหิมะเล็กๆและแสงไฟจากเทียน สามารถเดินมาจาก Otaru Station ไปยังคลอง 10 นาที
ระหว่างคลอง และสถานีรถไฟ คือ พื้นที่ Temiyasen Kaijo ทอดยาวประมาณครึ่งกิโลเมตรไปตามรางรถไฟเก่าเทมิยาเซ็น ข้างทางมีซุ้มอาหาร โคมไฟ และรูปปั้นหิมะ คล้ายกันกับพื้นที่ Unga Kaijo












อีกด้านหนึ่งของคลองโอตารุ








ภาพตอนจุดเทียนยามเย็น CR; http://www.talonjapan.com/otaru-canal-area/


เทียนที่ตจุดในโคมไฟน้ำแข็งริมทางเดิน


โอตารุยังมีที่ๆเรายังไม่ได้ไปชมอีกหลายแห่ง เช่น หมู่บ้านประมงปลาเฮอร์ริ่ง แต่เราจองตั๋วรถไฟเที่ยวกลับซัปโปโรไว้ 17.00 น. เราจึงต้องอำลาเมืองนี้ก่อนที่เขาจะจุดไฟในโคมน้ำแข็ง ในเทศกาลแสงไฟริมคลองโอตารุ (Otaru Snow Light Path Festival)

เรานั่งรถไฟกลับถึงเมืองซัปโปโรอย่างปลอดภัย หลังจากนั้นก็เดินเที่ยวชมเทศกาลหิมะซัปโปโร ที่สวนโอโดริ ต่อ ก่อนกลับห้องพักที่ Resol Trinity Sapporo.


💘💘ขอบคุณที่ตามอ่านครับ💘💘






___________________

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก