ทริปนี้พาท่านผู้อ่านไปขับรถเที่ยวชายโขงเขตแดนไทย-ลาว
โดยจะสตาร์ทกันที่เมืองอุบลราชธานี ในวันเข้าพรรษาปี 2557 ครับ
โดยจะสตาร์ทกันที่เมืองอุบลราชธานี ในวันเข้าพรรษาปี 2557 ครับ
แผนที่การเดินทาง
จริงๆแล้วเริ่มด้วยการเดินทางจากขอนแก่นเพื่อไปชมการแห่เทียนพรรษาที่อุบลฯกัน
โดยเราขับออกจากบ้านที่ขอนแก่นช่วงสายๆ วันที่ 11 กรกฏาคม 2557
เพื่อให้ถึงเมืองอุบลฯในช่วงบ่ายๆ เพื่อจะได้ออกไปชมต้นเทียนที่เขานำมาเตรียมแห่ในวันรุ่งขึ้น
โดยเราขับออกจากบ้านที่ขอนแก่นช่วงสายๆ วันที่ 11 กรกฏาคม 2557
เพื่อให้ถึงเมืองอุบลฯในช่วงบ่ายๆ เพื่อจะได้ออกไปชมต้นเทียนที่เขานำมาเตรียมแห่ในวันรุ่งขึ้น
ยามบ่ายที่อุบลราชธานี...จากโรงแรมทอแสง
ตามที่วางแผน..เราถึงอุบลฯช่วงบ่ายมีฝนลงมาเล็กน้อย
การเดินทางสะดวกดีถึงแม้จะมีคนเดินทางเยอะหน่อย
แต่โดยรวมแล้วรถราวิ่งได้คล่อง
เราผ่าน สารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร
และอุบลฯ
เมื่อถึงอุบลฯโทรหาที่พักได้ที่โรงแรมทอแสงซึ่งเป็นโรงแรมเก่าแก่ของที่นี่
หลังจากนั้นขับวนออกตามบายพาสไปเมืองวารินชำราบเพื่อหาอาหารประเภทปลาทาน
แต่ก็ได้อาหารพื้นเมือง
ก็ยังดี ... เพราะวันนี้คนมาอุบลฯกันเยอะ ถ้าเลือกมากคงไม่ไหว
ทานมื้อเที่ยง
(บ่าย) เสร็จเราขับไปเช็คอินที่โรงแรมทอแสงในเมืองกัน
เก็บของเข้าที่พักนอนพักพอหายเหนื่อย
แดดร่มลมตกก็พากันออกไปทุ่งศรีเมือง
ซึ่งบ่ายวันนี้ 11 กค. 57
เขาจะเอาต้นเทียนที่จะแห่มาจอดตั้งไว้รอบๆทุ่งศรีเมือง
ท่านที่ต้องการถ่ายภาพควรหาเวลาไปตอนนี้
จะได้ถ่ายภาพอย่างใกล้ชิด
ในบล๊อกนี้เราจะไม่เอาภาพมาลงมากนัก
เพราะเคยลงไปแล้งใน "บล๊อกแห่เทียนพรรษาที่อุบลฯ"
แต่ก็จะเอามาลงไว้เท่าที่เห็นครับ
ออกไปชมต้นเทียนพรรษายามบ่าย
เราออกไปนั่งฟังเพลงเคล้ากะเบียร์เย็นในตอนเย็น
บรรยาการดีมากครับ
ขนาดที่ว่าเราไปเช้าแล้วนะ ยังเกือบไม่มีที่นั่งแน่ ผู้คนมาจองกันเกือบเต็ม
9 โมงเช้าขบวนเริ่มมา เป็นประเภทเทียนพรรษาของเจ้าเมืองตามประเพณี
ตามด้วยขบวนต่างๆ มากมาย .... แต่เสียดายจัดระเบียบไม่ค่อยดี
แวะเข้ามาแจกหมวกกระดาษให้บรรดาผู้มาชมงานตามอัฒจันทร์
ช่างภาพเริ่มเยอะขึ้น จนบางครั้งเรามองว่าการที่ปล่อยให้ลงไปในลู่ที่จะแสดง มันไม่น่าเหมาะ
สิ่งที่ทางการควรทำคือ จัดระเบียบการถ่ายภาพใหม่ อจจะทำอัฒจันทร์พิเศษสำหรับพวกเขา
เพื่อป้องกันการกรูเข้าไปในลู่แสดง ซึ่งแน่นอนบดบังคนที่เข้าชมงานครับ...ฝากเจ้าหน้าที่ด้วย.
ถนนหนทางสะดวกมาก ระหว่างทางเราจอดพักทามื้อเที่ยงซึ่งวันนี้เป็นเมนูปลาแม่น้ำโขง
น่าจะชื่อร้านปลาน้ำโขงหรืออะไรนี่ อยู่ข้างทางขวามือขาไป อ.พิบูลฯ คนเข้าออกเยอะ
รถจอดเต็มไปหมด อาจจะเป็นเพราะวันหยุดก็เป็นได้
เราเดินซื้อของที่ตลาดชายแดน (อยู่ฝั่งไทย) ซักพักก่อนเดินทางต่อไปโขงเจียม
ที่ด่านช่องเม็กนี้เราสามารถเช่ารถต่อเข้าไปเที่ยวลาวใต้ได้ บริษัททัวร์ก็มีอยู่ที่ด่าน
หรือจะข้ามไปเช่าฝั่งลาวเลยก็ได้สะดวกดี...ออกจากด่านไป 40 กม. จะมีสะพานข้ามแม่น้ำโขง
ไปที่เมืองปากเซ ซึ่งที่นั่นมีโรงแรมมากมายครับ ... จากปากเซเราสามารถไปเที่ยวน้ำตกหลี่ผี
ในสี่พันดอน ไปเที่ยวน้ำตกคอนพะเพ็งอันตระการตา น้ำตกตาดเยือง ตาดฟาน และผาส้วมได้
ซึ่งวันนี้ไม่เห็นมีสองสี เพราะหน้าฝน จะเห็นก็แต่แม่น้ำสีขุ่น...ปกติจะเป็นเฉพาะแม่น้ำโขง
ส่วนแม่น้ำมูลที่ไหลลงไปบรรจบกับแม่โขงนั้นจะเป็นสีเข้ม (ใสจนออกเป็นดำ) ทำให้เห็นความแตกต่างชัดเจน
เมื่อเราเข้าไปถึง อ.โขงเจียม ก็ขับวนขึ้นเขาไปทาง อ.พิบูลย์ บนเนินเขานั้นจะเจอวัดถ้ำคูหาสวรรค์
วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2521 โดย "หลวงปู่คำคนิง จุลมณี"
ซึ่งใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรมจำพรรษา ปัจจุบัน หลวงปู่ท่านได้ มรณภาพแล้ว แต่ร่างกายของท่านไม่เน่าเปื่อย
บรรดาลูกศิษย์ได้เก็บร่างของท่านไว้ในโลงแก้วเพื่อบูชา
บริเวณวัดมีจุดชมวิวสามารถมองเห็นทัศนียภาพของลำน้ำโขงและฝั่งลาวได้อย่างชัดเจน
ที่น่าสนใจอีกที่วัดนี้ก็มี "พระธรรมเจดีย์ศรีไตรภูมิ" และพระอุโบสถสีเงิน
ที่ดูแปลกกว่าที่อื่น
ที่หน้าผาก่อนทางลงไปกราบสังขารหลวงปู่
ยังมีระเบียงให้ถ่ายภาพ ซึ่งสามารถมองเห็นแม่น้ำสองสีได้เป็นอย่างดี
ซึ่งตามทางที่ผ่านคุณๆก็สามารถแวะชมผาแต้ม ผาชนะไดในอุทยานแห่งชาตินาทามได้
เราแยกออกจาถนนหลักทางขวามมือ และขับเข้าไปอีกพอประมาณก่อนถึงที่ตั้งน้ำตก
ซึ่งเรียกตามลักษณะของสายน้ำที่ตกผ่านลงรูหิน
ส่วนที่มาของชื่อน้ำตกแสงจันทร์นั้น เรียกตามสายธารน้ำตก
ที่โปรยละอองผ่านช่องหินลงมาเป็นสีขาวนวลคล้ายแสงจันทร์
โดยเฉพาะในวันเพ็ญ ที่แสงจันทร์จะสาดส่องมาตรงรูหินพอดี
พร้อมกับละอองของธารน้ำตกที่โปรย ดูเป็นประกายสีนวลสวยงามมาก
ซึ่งทั้งหมดนี้คือที่มาของชื่อและเสน่ห์ของน้ำตกแห่งนี้
ที่ยังคงเก็บความงามสงบประสานอย่างกลมกลืนของธรรมชาติไว้ให้เป็นที่ประทับใจ
หมายเหตุ "รูหิน"
เกิดจากการถูกน้ำกัดเซาะ
เนื่องจากหินทรายทนตอการถูกกัดกร่อนน้อย
กำเนิดของน้ำตกแสงจันทร์
จึงเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ลงตัวของ "
หินทรายและสายน้ำ " (ที่มา : ป้ายของน้ำตก)
ที่ตั้ง บ้านทุ่งนาเมือง
ตำบลนาโพธิ์กลาง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
(ข้อความทั้งหมดจากป้ายที่น้ำตก)
ออกจากน้ำตกแสงจันทร์ก็ 4- 5 โมงเย็นแล้ว ตอนแรกเราวางแผนว่าจะหาที่พักแถวๆ
อำเภอโพธิ์ไทร
ซึ่งที่อำเภอนี้ถ้าเรามาตอนหน้าแล้งประมาณปลายมีนา
ถึงเดือนพฤษภาคม เราจะได้ชมสถานที่น่าอัศจรรย์ในแม่น้ำโขง
หรือที่เรียกกันว่า
"สามพันโบก" ....
เมื่อก่อนเราต้องลงเรือที่ท่าสองคอนล่องไปที่สามพันโบก
แต่ปัจจุบันท่านสามรถขับเข้าไปถึงที่ได้เลยครับ
ก่อนจะถึงอำเภอนี้มีเรื่องตื่นเต้นเล็กน้อย
คือน้ำมันรถจะหมด (เราเติมแก้สโซฮอลล์ E-85)
เราเริ่มเห็นตั้งแต่ช่องเม็กแล้ว
แต่หวังว่าทางด้านหน้าจะมีปั้มที่ขาย E-85 หรืออย่างน้อย E-20
บ้าง
แต่..ไม่มีเลย เราจึงค่อยๆวิ่งไปจนถึงโพธิไทร จึงเจอปั้มที่ขายแก้สโซฮอลล์
91 ...รอดไป.
เติมน้ำมันเสร็จเราซิ่งต่อ โดยเปลี่ยนใจไปนอนที่มุกดาหาร
ซึ่ง GPS บอกว่าจะถึงประมาณ 2 ทุ่ม ซึ่งพอไหวครับ
แต่เมื่อผ่าน อ.เขมราฐ
เราไม่วายที่จะขับวนชมเมืองในยามค่ำด้วย ซึ่งเป็นเมืองเล้กๆสงบน่าอยู่
ออกไปหาอะไรทานกันที่ร้านนัดพบริมโขงแถวๆตลาดอินโดจีน อยู่ใต้ลงมา ซึ่งบรรยกาศดี
เห็นเจ้าของร้าน นึกว่าแอ๊ด คาราบาว..แต่งตัวเหมือนมาก
ซึ่งที่ภูมโนรมย์วันนี้ทำที่ทางไว้สวยงาม ที่จอดรถกว้างขวางดี ขับขึ้นก็ไม่ยาก
แถมได้ชมวิวแบบเบิร์ดอายดีที่สุดของเมืองมุกดาหารด้วย
หลังจากนั้นเรากลับลงมาที่ตลาดอินโดจีน แวะไหว้พระที่วั ก่อนออกช้อปสินค้าจีนและเวียตนาม
เก็บภาพในวันที่ครึ้มฟ้า ครึ้มฝนไว้ก่อนเดินทางสู่วัดสองคอน
โบสถ์คริสต์วัดสองคอน
สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานเทิดพระเกียรติบุญราศีมรณสักขีทั้ง 7 ที่อุทิศชีวิตในป่าศักดิ์สิทธิ์เพื่อ พิสูจน์ศรัทธา ที่ มีต่อพระเจ้า เมื่อครั้งเกิดกรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศสในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากในระยะนั้นผู้คน แถบชายแดนจะศรัทธาและนับถือศาสนาคริสต์กันเป็นจำนวนมาก
และบาทหลวงส่วนใหญ่เป็นชาวฝรั่งเศส ทำให้ชาวบ้านเข้าใจผิด คิดว่าศาสนาคริสต์เป็นศาสนาของฝรั่งเศส จึงมีคนกล่าวหากันว่าคนที่นับถือคริสต์ช่วงนั้นจะฝักใฝ่ฝรั่งเศส ทรยศต่อประเทศชาติ รวมทั้งมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นหลายอย่าง ทางการจึงมีคำสั่งให้ชาวบ้านเลิกนับถือ ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ยอมรับว่าจะเลิกแต่ก็ ยังนับถือกันแบบลับๆ โดยมีซิสเตอร์พิลา ทิพย์สุข (อายุ 31 ปี) ซิสเตอร์คำบาง ศรีคำฟอง (อายุ 23 ปี) นายศรีฟอง อ่อนพิทักษ์ (อายุ 33 ปี) นางพุดทา ว่องไว (อายุ 59 ปี) นางสาวบุดสี ว่องไว (อายุ 16 ปี) นางสาวคำไพ ว่องไว (อายุ 15 ปี) และเด็กหญิงพร ว่องไว (อายุ 14 ปี) ที่ยังทำหน้าที่เป็นครูสอนคำสอนและไม่รับปากกับทางตำรวจว่าจะเลิกตำรวจจึงนำตัวทั้งหมดไปยิง จนเสียชีวิต
พระธาตุพนม
เป็นพระธาตุประจำผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ ประดิษฐาน ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ผลจากการขุดค้นทาง โบราณคดี ลงความเห็นว่าพระธาตุพนมสร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ. 1200–1400 ตามตำนานกล่าวว่าผู้สร้างคือ พระมหากัสสปะ พระอรหันต์ 500 องค์ และท้าวพระยาเมืองต่าง ๆ ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ ลักษณะ ของสถาปัตยกรรมมีแหล่งที่มาที่เดียวกันกับปราสาทของขอม และได้ทำการบูรณะเรื่อยมา ในปี พ.ศ. 2485 ได้รับการยกฐานะ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกขึ้นเป็น “วรมหาวิหาร” พระธาตุพนมไม่เพียงแต่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวนครพนมเท่านั้น พระธาตุพนม ยังเป็นที่เคารพของชาวไทยภาคอื่น ๆ และชาวลาวอีกด้วย ว่ากันว่าถ้าใครได้มานมัสการพระธาตุครบ 7 ครั้ง จะถือว่าเป็น “ลูกพระธาตุ” เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและจะมีความเจริญรุ่งเรือง หรือแม้แต่การได้มากราบพระธาตุพนม 1 ครั้ง ก็ถือ เป็นมงคลแก่ชีวิตแล้ว
ตามเส้นทางเลียบแม่น้ำโขงยังมีอะไรมากมายให้ท่านได้เที่ยวชม
โดยสามารถขับเลียบไปเรื่อยเลยจาก อ.ธาตุพนมไปประมาณ 10 กม. ก็สามารถแวะ อ.เรณูนคร
ขับต่อไปเรื่อยๆ ผ่านนครพนม บึงกาฬ หนองคาย จนไถึงเชียงคาน จ.เลย
ท่านจะได้ชมวัฒนธรรม วิถีชีวิต แหล่งสำคัญทางประวัติศาสตร์ รวมไปถึงสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ทางพระพุทธศาสนา
ถ้ามีโอกาสผู้เขียนจะรวบรวมเรื่องการเดินทางต่อจากนี้มาให้อ่านครับ
สำรับบล๊อกนี้ขอจบเพียงแค่นี้ ขอบคุณที่ตามอ่านนะครับ
ลากันด้วยภาพนี้ครับ