บล๊อกที่แล้วเราพาคุณๆไปชมยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นมาแล้วนะครับ มาบล๊อกนี้จะพาเดินชมหมู่บ้านเซอร์มัตต์บางส่วนดูบ้าง ซึ่งเซอร์มัตต์นี้เป็นหมู่บ้านในหุบเขาต้นทางที่จะขึ้นไปชมยอดเขา Matterhorn ที่สถานีรถไฟ Gornergrat หรือบนยอดเขากอร์แนร์กราทซึ่งว่ากันว่าเป็นจุดที่มองเห็น Matterhorn เป็นอย่างดีในวันที่อากาศเปิด.
หน้าสถานีรถไฟเซอร์มัตต์
เซอร์มัตต์ หรือ Zermatt ในภาษาเยอรมัน เป็นหมู่บ้านชนบทในเทือกเขาแอลป์ ตั้งอยู่ในรัฐวาเล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อเสียงด้านการปีนเขาและสกีรีสอร์ทมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ภาคเศรษฐกิจส่วนใหญ่ของเมืองหรือหมู่บ้านจึงขึ้นอยู่กับการท่องเที่ยว เซอร์มัตต์มีประชากร 5,714 คน (ค.ศ. 2016) ประชากรกว่าครึ่งหนึ่งของที่นี่ทำงานอยู่ในโรงแรมและร้านอาหาร อย่างไรก็ตาม มีประชากรถาวรหนึ่งในสามเท่านั้นที่เป็นประชากรดั้งเดิมของเซอร์มัตต์ ส่วนที่เหลือย้ายมาจากต่างประเทศ หมู่บ้านเซอร์มัตต์ท์นอกจากมีรถไฟฟันเฟืองหรือ Cogwheel ขึ้นเขา Gornergrat เพื่อชมยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นแล้วยังมีกระเช้าลอยฟ้าให้บริการสู่ไคลน์มัทเทอร์ฮอร์น ซึ่งมีกระเช้าลอยฟ้าข้ามไปยังหมู่บ้านเบรย์-เชอรวีเนีย (Breuil-Cervinia) ซึ่งตั้งอยู่ในฝั่งประเทศอิตาลีด้วย.
ที่จตุรัสหรือ Bahnhof จะมีแท๊กซี่ที่ใช้ไฟฟ้าจอดรอรับส่งผู้โดยสาร
บนถนน Bahnhofstrasse
เดินในเซอร์มัตต์ง่ายครับไม่มีหลงเพราะมีถนนหลักให้เดินช้อปปิ้งหรือหาอาหารทานเพียงเส้นหลักเส้นเดียวคือถนน Bahnhofstrasse ซึ่งเริ่มมาจากสถานีรถไฟ (ทั้งสถานีหลักและสถานีกอร์แนร์กราท) เรื่อยไปจนถึงโบสถ์ Pfarrkirch St.Mauritius และ Matterhorn Museum .... อีกถนนหนึ่งก็เลียบแม่น้ำ Gornera ซึ่งมีโรงแรมตั้งเรียงรายอยู่มากมาย เพราะมุมนี้สามารถมองเห็นเจ้า Matterhor ได้เป็นอย่างดี
ร้านอาหารญี่ปุ่น Myoko (ราคาค่อนข้างแพง)
โรงแรมนอกจากที่ริมแม่น้ำยังตั้งอยู่ตามเนินเขา
จากรถไฟสู่ Gornergrat สามารถมองเห็นหมู่บ้านและยอดแมทเทอร์ฮอร์น
ถ่ายจากริมน้ำ Gornera
บรรยากาศในเซอร์มัตต์ช่วงบ่ายสี่โมงวันที่ 26 พย. 17
ช่วงที่ไปถึงเป็นช่วงหน้าหนาว ร้านค้าจะเอาเสื้อกันหนาวมาวางขายแบบลดราคามากมาย
และในร้านพวกเครื่องกีฬาโดยเฉพาะสกี จะมีขายมากมาย
บนถนน Bahnhofstrasse
มีร้านอาหารไทยใต้โรงแรม Helvetia
เรามาพักที่โรงแรม Helvatia ซึ่งก็คือ Gesthouse นั่นเองแต่ราคาก็เอาการอยู่เพราะอยู่กลางหมูบ้าน ใกล้ๆกับโบสถ์และ Matterhorn Museum ... เดินลากกระเป๋าจากสถานีรถไฟไปไม่ไกล ด้านล่างเขาทำเป็นร้านอาหารไทย ... ใน Zermatt นอกจากมีโรงแรมใหญ่ๆหรูๆมากมายแล้ว บ้านดั้งเดิมของชาวบ้านที่นี่ก็มักจะดัดแปลงชั้น 2 - 4 เป็นโรงแรมหรือ Guesthouse อีกด้วยครับ
Pfarrkirch St.Mauritius
Matterhorn Museum
Matterhorn Museum นี้เป็นสถานที่จัดแสดงประวัติความเป็นมา และความเป็นอยู่ของชาวเมือง
เปิดให้เข้าชมทุกวัน 11.00 - 18.00 น. ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 10 CHF เด็ก 10-16 5 CHF
ส่วนคนที่มี Swiss Pass นั้น เข้าชมฟรี
กับแพะภูเขาที่หน้าโบสถ์ Pfarrkirch St.Mauritius
โบสถ์ Pfarrkirch St.Mauritius และ Grand Hotel Zermatterhof
ด้านข้างโบสถ์ Pfarrkirch St.Mauritius
Matterhorn ที่ต้องแสงอาทิตย์ในยามเช้า
👉วันที่ 27 พย.17 เราตื่นเช้าและฝ่าลมหนาวออกไปถ่ายยอดเขา Matterhorn จากตัวหมู่บ้าน วันนี้อากาศสลัวๆแต่พอมองเห็นยอดแมทเทอร์ฮอร์นได้อย่างชัดเจน แต่อากาศที่เซอร์มัตต์นี่สิหนาวมากจนแทบถอดถุงมือถ่ายภาพผ่านมือถือไม่ได้ เดินมาที่โบสถ์ซึ่งสามารถมองเห็นยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นดังในภาพได้ ก็แทบแข็ง .... แต่เชื่อเลยว่าในหลายๆจุดในหมู่บ้าเซอร์มัตต์นี้สามารถยลโฉมแมทเทอร์ฮอร์นไดเป็นอย่างดี....ภาพที่นำมาให้ชมในบล๊อกนี้เป็นภาพผสมกันระหว่างวันที่ 26 พ.ย.และวันที่ 27 พ.ย. 2017 ครับ👈
เราใช้เวลาหลังอาหารเช้าที่เซอร์มัตต์จนถึง 8.30 น. ก่อนที่จะขึ้นรถไฟไปที่มองเทอร์เพื่อจะไปนั่งรถขบวน Golden Pass Line ไป Interlaken และพักที่อพารทเม้นท์ในอินเตอร์ลาเก็นจนถึงวันออกจากสวิส.
💘💘ขอบคุณที่ติดตามครับ💘💘
ลาด้วยภาพบนยอดเขากอร์แนร์กราทภาพนี้ครับ
____________
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น