อัพบล๊อกวันนี้ก็มาถึงช่วงสุดท้ายที่เราพาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ในเดือนพฤศจิกายน 2018 แล้วนะครับ ... จากบล๊อกที่แล้วเราพาคุณๆไปเที่ยวชมใบไม้แดงและไหว้พระใญ่ที่วัดโทไดจิ เมืองนาระ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโอซาก้ามากนักครับ โดยการใช้ทางด่วน เราจะใช้เวลาเพียง 20 กว่าๆนาทีเท่านั้นเองก็ถึงเมืองโอซาก้าแล้วครับสำหรับวันนี้เป้าหมายเราอยู่ที่ปราสาทโอซาก้า และช้อปปิ้งที่เอาท์เลท.... ก่อนออกเดินทางกลับเมืองไทยโดยสายการบินคาร์เธ่แปซิฟิค ซึ่งจะแวะพักที่ฮ่องกงก่อนกลับกรุงเทพฯ
เนื่องจากเราใช้เวลาในช่วงเช้าที่วัดโทไดจิไปเกือบครึ่งวัน โปรแกรมต่อไปคือหาอะไรทานเป็นมื้อเที่ยงก่อน รถตู้พาเราเข้าไปแถวๆกลางเมืองโอซาก้าและแวะร้าน Pronto เพื่อเลือกสั่งเป็นอาหารแบบจานเดียวเพื่อให้รวดเร็ว ... จะสังเกตุเห็นใบไม้ในเมืองโอซาก้านั้นร่วงเกือบหมดแล้ว เพื่อรอรับอากาศหนาวเย็นในช่วงเดือนต่อไป ฉะนั้นใบไม้แดงในเมืองนี้จึงไม่โดดเด่นนัก เมื่อนั่งรถผ่านเมืองก็จะเห็นแต่ใบแปะก๊วยที่เหลืองอร่ามในบางถนนเท่านนั้น สีแดงๆแบบในเกียวโตไม่ค่อยมี
ทานมื้อเที่ยงกันแถวๆนี้หลังมื้อเที่ยงเรามาที่ปราสาทโอซาก้า เพื่อชมรอบๆปราสาทเท่านนั้น เลยมีภาพเฉพาะรอบปราสาทมาฝากกันครับ ... รถตู้มาส่งเราใกล้ๆที่จอดแท๊กซี่เพื่อให้เราเดินเข้าสู่ปราสาทแบบไม่ไกลนัก คือถ้าวัดระยะทางกันจริงๆ จากตรงนี้เข้าไปถึงตัวปราสาทก็เกือบกิโลเมตรเลยทีเดียว แต่เขามีรถกอล์ฟ (หรือรถราง) รับส่งเข้าไปครับ โดยมีค่าโดยสาร 100 เยนจากป้ายรถแท๊กซี่ ส่วนรถจะรับส่งปลายทางที่สถานีรถไฟใต้ดิน แต่คนละราคากับตรงนี้นะครับ ... ขาเข้าปราสาทเราเลือกเดินก่อน เพื่อจะได้ถ่ายภาพไปด้วย.
อนุสาวรีย์หน้าทางเข้า
วิธีเดินทาง :1. JR West : นั่งรถไฟสาย JR Osaka Loop Line ลงสถานี Morinomiya หรือ Osakajokoen2. Osaka Subway : นั่งรถไฟใต้ดินสาย C–Chuo Line (สีเขียวเข้ม) หรือ สาย N–Nagahori Tsurumi-ryokuchi Line (สีเขียวอ่อน) ลงสถานี C19,N20–Morinomiyaค่าผ่านประตู : สวนสาธารณะและบริเวณด้านนอกปราสาท ฟรี / ส่วนภายในปราสาทและพิพิธภัณฑ์ ผู้ใหญ่ ¥600, เด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าชมฟรีเวลาให้บริการ : ทุกวัน 09.00-17.00 น.ติดต่อ : 06-6941-3044 / เว็บไซต์ : https://www.osakacastle.net/english/
ทางเข้าสู่ปราสาทด้านนอกกำแพง
ด้านนอกกำแพงจะมีคูน้ำล้อมรอบ
ประตูโอเตมง
เสาโทริอิที่หน้าศาลเจ้า Hokoku-Jija
Sakuramon Gate
ปราสาทโอซาก้าท่ามกลางมหานครที่ใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่น ปราสาทอันทรงพลังกำลังแทรกตัวอยู่ท่ามกลางตึกรามบ้านช่องอันทันสมัยปราสาทอันยิ่งใหญ่อลังการที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ใจกลางเมืองบนสวนสาธารณะพื้นที่กว่า 2 ตร.กม. นี้เป็นสัญลักษณ์และสถานที่ทางประวัติศาสตร์อันสำคัญของโอซาก้า มันถูกสร้างขึ้นในบริเวณวัดโอซาก้าฮอนกาจิเดิม แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าตัวปราสาทปัจจุบันนั้นไม่ใช่อาคารเก่าแก่ดั้งเดิมที่สร้างขึ้นโดยโทโยโทมิ ฮิเดะโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) ในปี ค.ศ.1583 เพราะตัวปราสาทหลังเดิมนั้นถูกทำลายลงอันเนื่องมาจากสงครามและภัยธรรมชาติรวมถึงทรุดโทรมตามกาลเวลามาหลายครั้งสำหรับปราสาทหลังปัจจุบันนั้นถูกบูรณะสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1931 ซึ่งถือเป็นการสร้างปราสาทโอซาก้าขึ้นใหม่เป็นครั้งที่ 3 ในพื้นที่ดั้งเดิม และการสร้างครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นได้ก็ด้วยการระดมทุนบริจาคจากชาวเมืองโอซาก้าที่ร่วมด้วยช่วยกันจนสามารถฟื้นฟูความงดงามในอดีตให้กลับมาตระหง่านดังเดิมได้อีกครั้ง แล้วปราสาทนี้ก็ยังสร้างความอัศจรรย์ด้วยการรอดพ้นจากสงครามโลกมาได้อย่างปาฏิหาริย์โดยไม่ได้รับความเสียหายใดๆ อีกด้วยตัวปราสาทนั้นอาจแลเห็นภายนอก 5 ชั้น แต่ความจริงแล้วมีทั้งหมด 8 ชั้นด้วยกัน ภายในนั้นคือส่วนของ Osaka Castel Museum ที่จัดแสดงนิทรรศการเชิงประวัติศาสตร์เล่าเรื่องราวของปราสาทได้อย่างน่าสนใจ รวมไปถึงจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ในอดีตไปจนกระทั่งอาวุธยุทโธปกรณ์สมัยโบราณ และชั้นบนสุดนั้นก็คือหอคอยที่ใช้สังเกตการณ์สงครามอันเป็นเอกลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่งของปราสาทญี่ปุ่นซึ่งปัจจุบันเราสามารถขึ้นไปชมวิวอันสวยงามของเมืองโอซ้าก้าในมุมสูงได้รอบทิศอีกด้วย
หอคอยกลาง
Osaka Castel Timeline• ค.ศ.1496 >>> วัดโอซาก้าฮอนกันจิถูกสร้างขึ้นและมีอิทธิพลต่อการปกครองของดินแดนแถบโอซาก้า• ค.ศ.1583 >>> หลังจากที่โชกุนโอดะ โนบุนากะ (Oda Nobunaga) มีชัยชนะเหนือกองทัพของวัดโอซาก้าฮอนกาจิแล้วก็มอบหมายให้โทโยโทมิ ฮิเดะโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) เป็นผู้สำเร็จราชการดูแลหัวเมืองในแถบนี้แทน เขาได้สร้างปราสาทโอซาก้าขึ้นเป็นที่มั่นบนพื้นที่ดั้งเดิมของวัดโดยเลียนแบบปราสาทอะซุฉิ (Azuchi Castle) ของโชกุนโอดะ โนบุนากะ อันเป็นศูนย์บัญชาการหลักในการปกครองประเทศสมัยนั้นเพื่อสะท้อนความเกรียงไกรและเป็นฐานในการรวบรวมแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่นครั้งแรกของญี่ปุ่น• ค.ศ.1585 >>> ตัวปราสาทโอซาก้า (อาคารหลัก) สร้างเสร็จสมบูรณ์ (ปราสาทหลังแรก)• ค.ศ.1598 >>> ปราสาทโอซาก้าสร้างเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดและโทโยโทมิ ฮิเดะโยชิเสียชีวิต• ค.ศ.1600 >>> หลังจากฮิเดะโยริ โทโยโทมิ (Hideyori Toyotomi) ลูกชายของฮิเดะโยชิเข้ามาดูแลปราสาทโอซาก้าแทนก็ได้เกิดสงครามเซกิกาฮาระขึ้น (The Sekigahara War) โดยผู้นำทัพก็คือโทกุกาวะ อิเอะยาซุ (Tokugawa Ieyasu) นายทหารผู้คอยติดตามฮิเดะโยชินั่นเอง ซึ่งผลก็คือเขาได้ชัยชนะและเริ่มสร้างอาณาจักรโทกุกาวะของตนเองในเอ็นโด (โตเกียวในปัจจุบัน)• ค.ศ.1603 >>> โทกุกาวะ อิเอะยาซุถูกแต่งตั้งให้เป็นโชกุน• ค.ศ.1614 >>> โทกุกาวะ อิเอะยาซุเริ่มทำสงครามกับฮิเดะโยริ โทโยโทมิในฤดูหนาวที่เรียกว่าสงคราม Siege of Osaka และโชกุนโทกุกาวะก็สามารถเอาชนะสงครามได้ในปีต่อมา (ค.ศ.1615) หลังจากนั้นเขาได้ฆ่าล้างตระกูลโทโยโทมิจนสิ้นและทำลายปราสาทโอซาก้าลง• ค.ศ.1620 >>> โทกุกาวะ ฮิเดะทาดะ (Tokugawa Hidetada) ผู้เป็นลูกชายนั้นถูกแต่งตั้งให้เป็นโชกุนคนที่สองเขาได้เริ่มบูรณะปราสาทโอซาก้าขึ้นมาใหม่อีกครั้ง สร้างปราสาทที่ยิ่งใหญ่กว่าเก่า สร้างกำแพงใหม่ให้แข็งแกร่งขึ้น• ค.ศ.1629 >>> ปราสาทโอซาก้า (ปราสาทหลังที่สอง) กลับมาเกรียงไกรอีกครั้งอย่างสมบูรณ์• ค.ศ.1660 >>> ปราสาทโอซาก้าถูกโจมตีจากปืนใหญ่จนไฟไหม้• ค.ศ.1665 >>> ปราสาทโอซาก้าถูกฟ้าผ่าจนเกิดไฟไหม้และทำให้ตัวปราสาทพังทลายลงอีกครั้ง• ค.ศ.1868 >>> ปราสาทโอซาก้าที่ทรุดโทรมนั้นถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นกองบัญชาการทางทหารญี่ปุ่นยุคใหม่ที่ได้รับอิทธิพลทางทหารมาจากฝั่งตะวันตก• ค.ศ.1928 >>> หลังยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 ปราสาทโอซาก้า (ปราสาทหลังที่สาม) ถูกฟื้นฟูสร้างขึ้นใหม่ โดยนายกเทศมนตรีเมืองโอซาก้าในยุคนั้นได้ระดมทุนจากประชาชนจนได้รับการบริจาคอย่างสำเร็จเกินคาดทำให้สามารถสร้างปราสาทหลังใหม่และฟื้นฟูให้กลับมาตระหง่านงดงามอีกครั้ง• ค.ศ.1945 >>> ส่วนยอดของหอคอยปราสาทโอซาก้าและโบราณสถานหลายแห่งภายในบริเวณปราสาทถูกโจมตีทางอากาศจากกองทัพอเมริกันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ก็เป็นที่น่าอัศจรรย์ที่ตัวปราสาทนั้นไม่ถูกทำลายแต่อย่างใด• ค.ศ. 1995 >>> รัฐบาลท้องถิ่นแห่งโอซาก้าอนุมัติงบประมาณในการซ่อมบำรุงและบูรณะปราสาทโดยตกแต่งรายละเอียดใหม่ทั้งหมดให้เป็นความงดงามตามยุคสมัยเอ็นโด รวมไปถึงการสร้างหอคอยบนยอดปราสาทเสียใหม่โดยไม่ได้ยึดตามรูปแบบดั้งเดิม• ค.ศ. 1997 >>> การก่อสร้างและบูรณะครั้งล่าสุดเสร็จสิ้นสมบูรณ์ แต่ปราสาทหลังนี้ถูกซ่อมแซมใหม่ด้วยคอนกรีตให้มั่นคงแข็งแรงยิ่งขึ้น ภายในนั้นถูกปรับปรุงตกแต่งใหม่หมดให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์อันทันสมัยนอกจากความงดงามของปราสาทแล้วความสวยงามของธรรมชาติภายในสวนสาธารณะแห่งนี้ยังได้รับความนิยมไม่แพ้กันอีกด้วย โดยเฉพาะในช่วงที่ซากุระบานนั้นปราสาทโอซาก้าแห่งนี้จะงดงามอย่างโดดเด่นและเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมที่มา : https://th.japantravel.com/
เรือท่องเที่ยวแบบโบราณรอบๆปราสาท
ด้านข้างคือ Nishinomaru Garden
สวนหน้าหอคอยกลาง
ก้อนหินแผ่นใหญ่ที่ทำกำแพงตรงทางเข้า
เจอเขามาถ่าย Pre-wedding
ก่อนถึงเวลาที่จะไปสนามบินคันไซ เราแวะช้อปกันที่ Gap Outlet และหาอะไรทานเล็กๆน้อยๆกันก่อน เพราะจากนี้ไปสนามบินก็แค่ 10 นาทีเท่านั้นเอง ที่เอ้าท์เลทแห่งนี้จะว่าไปแล้วก็คงสู้โอเทมบะไม่ได้หรอกครับ แต่ก็มีของให้ได้เดินเลือกซื้อหลายอย่างเหมือนกัน เช่นเครื่งกีฬา นาฬิกา เสื้อผ้า และมากที่สุดในวันที่ไปคือเครื่องกันหนาว เช่นเสื้อกันหนาว เสื้อโค้ช อะไรพวกนั้น หลายๆร้านลดมากถึง 50-60 เปอร์เซ็นเลยทีเดียวครับ
เราใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษๆ ก็เดินทางไปสนามบิน สะพานที่โดนคลื่นซัดช่วงที่พายุเข้าก็ยังคงซ่อมแซมอยู่ รถต้องวิ่งโดยใช้าทางเบี่ยง แต่ก็ไปถึงสนามบินได้ไม่ยากนัก สนามบินคันไซเป็นสนามบินที่ถมทะเลขึ้นมาฉะนั้นจึงตั้งอยู่กลางน้ำประมาณว่าเป็นเกาะสรั้างขึ้นมาใหม่นั่นเอง แต่ที่นี่ก็คึกคักมากๆวันนี้เครื่องเราโดยสาบการบิน Cathay Pacific จะออกจากสนามบินเวลา 19.00 น. ทุกวันนี้เราไม่ต้องกรอกเอกสารขาออกแล้ว แต่ต่อไปเห็นว่าจะต้องจ่ายเงินค่าออกกันแล้วครับ.ขอบคุณที่ตามอ่าน
ที่ GAP OUTLET ใกล้ๆสนามบินคันไซ