อ่าน : The Lake District ในหน้าร้อน
บล๊อกก่อนหน้านี้เราพาคุณๆเดินทางฝ่าอากาศหนาวเย็นขึ้นมาถึงเมืองแลงคาสเตอร์แล้วนะครับ มาบล๊อกนี้เราจะพาเดินทางต่อไปที่เมืองนิวคาสเซิ่ลจุดหมายปลายทางสุดท้ายในอังกฤษของทริปขับรถเที่ยวอังกฤษในหน้าหนาว ... แต่ระหว่างทางเราจะใช้เวลาประมาณครึ่งวันอยู่ที่ The Lake District ทะเลสาบบนอุทยานแห่งชาติของอังกฤษกัน ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดของอังกฤษกัน แน่ละที่นี่ก็ย่อมเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่อยากมาพักผ่อนกันครับSmiley
วิวอ่าวจอดเรือที่มีฉากหลังด้วยป่าไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี
เช้าเราขับออกจาก Lancaster ตามถนน M6 ขึ้นเหนือแล้วแยกออกไปตามถนนสาย A590 เพื่อจะไปทะเลสาบ The Lake District กัน ซึ่งจริงๆแล้วเราต้องขับไปทางแยกตามถนนสาย A591 ซึ่งจะพาเราเข้ากลางเมือง Windermere (เราเคยมาครั้งหนึ่งโดบขับมาจากจากเมืองลิเวอร์พูล) แต่อีกคันของเพื่อนชาวอังกฤษพยามตาม A590 ไปเรื่อยๆ แวะออกนอกทางบ้าง เข้าไปตามรีสอร์ทต่างๆริมทะเลสาบ ซึ่งก็ได้วิวที่สวยดี แต่ต้องขับรถเลยไม่ได้ภาพเหล่านั้นมาฝากซักเท่าไหร่ จนกระทั่งเราแยกขึ้นไปถึงท่าเรือข้ามฟากนั่นแหละ ถึงได้จอดพักเข้าห้องน้ำและเก็บภาพมาให้ชมกันครับ
เส้นทางที่ขับจากเมืองแลงคาสเตอร์ไปสู่ Lake District
อุทยานแห่งชาติเลคดิสทริคเป็นพื้นที่กว้างที่มีภูเขาสูงชัน ผืนหญ้าที่ปกคลุมอาณาบริเวณจนสุดลูกหูลูกตา และแอ่งน้ำจืดขนาดใหญ่ ทิวทัศน์ธรรมชาติของบริเวณนี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับนักประพันธ์หลากหลายคน รวมถึงนักประพันธ์กลอนที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งของประเทศอังกฤษอย่างวิลเลียม เวิร์ดสเวิร์ธ ดื่มด่ำไปกับบริเวณอุทยานที่งดงามปานภาพวาด ขณะที่คุณท่องไปตามหมู่บ้านและหุบเขาริมทะเลสาบที่ดูสวยแปลกตา
จุดเด่นอย่างหนึ่งของอุทยานคือ ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของเกาะอังกฤษชื่อว่า ทะเลสาบวินเดอร์เมียร์ (Windermere) ซึ่งยาวกว่า 18 กิโลเมตร ท่องไปรอบ ๆ ทะเลสาบ และเฝ้ามองเกาะน้อยใหญ่บนเรือกลไฟและเรือเฟอร์รี่ ฟังเรื่องเล่าเกี่ยวกับความพยายามในการเดินเรือเร็วเพื่อทำลายและตั้งสถิติโลกใหม่ ณ ทะเลสาบแห่งนี้
ทางชายฝั่งด้านเหนือจะมีศูนย์นักท่องเที่ยวเลคดิสทริค หรือ บร็อกโฮลล์ (Brockhole) เรียนรู้เกี่ยวกับนักประพันธ์นิทานเด็กอย่างเบียทริกซ์ พอตเตอร์ และเดินลัดเลาะป่าเขาลำเนาไพรและเส้นทางที่ปกคลุมด้วยดอกไม้สวยหวาน นอกจากทิวทัศน์ที่สวยตราตรึงใจแล้วนั้น เลคดิสทริคยังเป็นที่กล่าวขานว่ามีเมืองเล็ก ๆ ที่น่ารักอย่างเมืองบาวเนสส์ ออน วินเดอร์เมียร์ (Bowness-on-Windermere) ซึ่งจะมีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง The World of Beatrix Potter
เดินมุ่งหน้าไปทางตะวันตกเพื่อป่ายปีนภูเขาลูกที่สูงที่สุดในอังกฤษอย่างสกาเฟลล์ ไพก์ (Scafell Pike) โดยมีทางขึ้นเขาที่มีระดับความชันและความยากให้เลือกเดินหลายระดับ ลองใช้วิธีแบบวาสเดล (Wasdale) ที่จะใช้การเดินแบบง่าย ๆ และค่อนข้างชัน หรือจะเดินตามทางบอร์โรว์เดล (Borrowdale) เพื่อได้เห็นทิวทัศน์อันงดงามก็ได้ ชมวิวจากยอดเขาลูกใดลูกหนึ่งที่โอบกอดอุทยานไว้ ในช่วงฤดูหนาว ภูเขาเหล่านี้จะถูกปกคลุมด้วยผืนหิมะสีขาวโพลน
เข้าไปชมอุทยานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง พิพิธภัณฑ์ ร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวจะมีช่วงเวลาเปิดให้ชมและราคาที่แตกต่างกันไปแต่ละแห่ง
อุทยานแห่งชาติเลคดิสทริคอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษในบริเวณที่มีความงดงามตามธรรมชาติอันสุดแสนวิจิตร นอกเหนือจากอุทยานแห่งชาติยอร์กไชร์ เดลส์ (Yorkshire Dales National Park) และบริเวณนอร์ธ เพนนีส์ (North Pennines) นอกจากนี้ยังมีเมืองใกล้ ๆ อย่างเมืองคาร์ไลล์ (Carlisle) ทางทิศเหนือ และเมืองเพรสตัน (Preston) ทางทิศใต้อีกด้วย การเดินทางมาที่อุทยานให้ขับรถมุ่งหน้าทิศตะวันตกเฉียงเหนือจากกรุงลอนดอนเป็นระยะทาง 420 กิโลเมตร
ที่มา : https://www.expedia.co.th/Lake-District-Visitor-Centre-At-Brockhole-Windermere.d6087971.Place-To-Visit
วิวจาก Lake District ที่ท่าเรือข้ามฟาก
จริงๆแล้ว Lake District นั้นประกอบด้วยทะเลสาบหลายๆแห่ง ที่อยู่ในอุทยานนี้ ... ที่ๆเราไปเที่ยวชมนี้คือเจ้าทะเลสาบที่เรียกว่า Lake Windermere ครับ ซึ่งมีพื้นที่ผิวน้ำทั้งหมด 14.73 ตารางกิโลเมตร ส่วนที่ยาวที่สุด 18.08 กม. ส่วนที่กว้างที่สุด 1.49 กม. จุดที่ลึกที่สุด 66.76 เมตร โดยตั้งอยู่สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 39 เมตร. ครับ .... มาที่นี่นักท่องเที่ยวก็จะล่องเรือชมทะเลสาบ เดินป่า และตั้งแค้มป์กันครับ การเดินทางไปยังจุดต่างๆตามทะเลสาบวินเดอร์เมียร์ หากไม่มีรถ ก็สามารถซื้ตัวรถบัส 2 ชั้นแบบ Hop-on Hop-off (รถชมเมืองแบบลงเที่ยวได้และสามารถขึ้นคันอื่นไปต่อได้ทั้งวัน) ได้ครับ
ใกล้ๆกับท่าเรือข้ามฟาก
The Belsfield
พอมาถึงท่าเรือ Bowness เราก็ขับตามป้าย Parking ไป ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจาก Information Centre นี้มากนัก น่าจะซัก 5 นาทีสำหรับการเดิน (ทางซ้ายมือภาพที่ 2 จากภาพ Information Centre) เช่นเคยครับ Pay and Place หรือ หยอดเรียญได้ตั๋วแล้วเอามาวางไว้หน้าคอนโซลรถให้เขามองเห็น ตรงที่จอรถนั้นจะมีห้องแบบหยอดเหรียญด้วย ราคาก็ 50 เพน หรือครึ่งปอนด์ครับ
Information Centre
วิวจากเมือง Bowness-on-the Windermere
วิวจาก Bowness Pier
Lake cruise & Fares
ดูเพิ่มเรื่องราคา https://www.windermere-lakecruises.co.uk/cruises-fares
การเดินทางจาก Bowness-on-Windermere ไป Grasmere
จากท่าเรือ Bowness ในทะเลสาบวินเดอร์เมียร์ทางใต้ เราขับขึ้นไปเหนือสุดของทะเลสาบนี้ ผ่านหมู่บ้านที่ที่พักริมทะเลสาบมากมาย จนเลยทะเลสาบวินเดอร์เมียร์ขึ้นไปถึงหมู่บ้านเล็กแต่โรแมนติกมากๆชื่อว่า "Gasmere" (กราสเมียร์) ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับทะเลสาบที่อยู่ใกล้ๆนั้น ชื่อนี้ได้เชื่อมโยงไปถึงบทกวีของ William Wordsworth ที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่ 14 ปี ที่พรรณาว่า "the loveliest spot that man hath ever found." หรือ ... ดินแดนที่lสวยงามที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยพานพบ ... (จขบ.)
ลานจอดรถแบบหยอดเหรียญก่อนเข้าหมู่บ้าน Grasmere
เดินเท้าเข้าสู่หมู่บ้านไม่ไกล
กราสเมียร์มีแม่น้ำ Rothay อันงดงามที่ไหลผ่านหุบเขาและทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ของกราสเมียร์ ซึ่งหมู่บ้านที่น่าหลงใหลในเลคดิสทริคแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าในอดีตเคยเป็นบ้านของ วิลเลียม เวิร์ดสเวิร์ธ กวีที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งของอังกฤษ เที่ยวชมบ้านในอดีตของนักประพันธ์เอกผ่านมุมมองอันเฉียบคมเพื่อชมความงดงามตามธรรมชาติ ตลอดแหล่งสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่กวีท่านนี้และครอบครัวเคยพำนักอยู่ในช่วง 1813 - 1850 (ปีที่เสียชีวิต) .... ตอนผู้เขียนมาที่นี่ครั้งแรกในช่วงหน้าร้อน เห็นคนมาเล่นพารามอเตอร์บนยอดเขาและเหนือทุ่งหญ้านั้นมากมายด้วย.
ในหมู่บ้านมีแม่น้ำไหลผ่าน
ภายในหมู่บ้าน
เดินชมธรรมชาติรอบๆหมู่บ้าน
หยุดพักถ่ายภาพไปตามเส้นทาง
แวะชมฟาร์มแกะ
Symmetry Yard ติดหมู่บ้าน
เดินทางไปเมืองนิวคาสเซิ่ลตามถนน A591
เส้นทางขับจาก Grasmere - Newcastle upon Tyne
หลังจากเดินเที่ยวรอบๆและในหมู่บ้านจนเหนื่อยแล้ว เราก็เดินทางกลับนิวคาสเซิ่ลโดยเซทเจ้า GPS ไป การใช้จีพีเอสในประเทศทางยุโรปจะแม่นมาก โดยเฉพาะในอังกฤษ เพียงเราใส่ post code ลงไป มันจะหาให้ได้ตรงเปะ ...เพียงแต่ ... เราจะตั้งค่าเจ้า GPS แบบไหน เช่นครั้งนี้เราเอาทางใกล้ที่สุดและเลี่ยงทางลูกรัง เจ้าเครื่องมือนำทางตัวนี้ก็จะพาเราไปทางลัดเลยล่ะ .... ทางลัดนั้น มันไม่จำเป็นที่จะต้องไปตามหลักเสมอ เราจึงไปตามทางสายย่อย คือ Bxxxx โดยช่วงจาก Penrith ไป Haydon Bridge นั้นผ่านเขาสูง มีหิมะปกคลุม บางช่วงแทบถมทาง นานๆมีรถผ่านมาซักที (ชักใจไม่ดี) พาลูกพาแฟนทำใจดีสู้เสือขับไปเรื่อยๆ ตะวันก็คล้อยลงเรื่อยๆเช่นกัน สุดท้ายระยะทาง 92 ไมล์ เลยใช้เวลาขับกว่า 4 ชั่วโมง (14.00-18.00) ถึงที่พักจนมืดค่ำ (มืดเร็วมาก) ..... วันนี้เราพักที่ Jesmond Park Guest house, Queen Road ซึ่งห้องกว้างพอใช้สำหรับ 3 คน.
พรุ่งนี้เช้าต้องเอารถที่เช่ามาไปคืนเขาก่อนเที่ยง เพราะเครื่องจะออกจากนิวคาสเซิ่ลอินเตอร์เนชั่นแนลแอร์พอร์ตประมาณ 15 นาฬิกา และต้องไปต่อที่ London Heathrow International Airport ไปลงที่โดฮา การต้า และต่อเครื่องเข้าสุวรรณภูมิจากที่นั่น.
ที่พักในเมือง Newcastle upon Tyne.