วันศุกร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2560

ฮอกไกโด..หน้าหนาว 7 (เที่ยวเมืองชิโตเสะ)


อ่าน : ฮอกไกโด..หน้าหนาว 6 (คิโรโระสกีรีสอร์ท)
อ่าน : ฮอกไกโด..หน้าหนาว 8 (เที่ยวโทมาโกไม)


ทริปท่องฮอกไกโดหน้าหนาวของเราก็ผ่านมาถึงบล๊อกที่ 7 แล้วนะครับ สำหรับบล๊อกนี้เป็นการเดินทางต่อเนื่องจากที่เราลงมาจากคิโรโระสกีรีสอร์ท ที่เมือง.... มาขึ้นรถไฟที่สถานี Otaruchikko เมืองโอตารุ โดยขึ้นรถเร็วสายโอตารุ-สนามบินชิโตเสะ (Otaru - New Chitose Airport) ซึ่งต้องผ่านเมือง Sapporo ด้วย แล้วมาลงที่สถานีชิโตเสะ 2 สถานีก่อนถึงสนามบิน... เราต้องเดินทางแบบนี้เพราะปัญหาเรื่องที่พักในช่วงเทศกาลนี่แหละครับ ราคาที่พอพักได้ก็เต็มหมด เหลือ็แต่ประเภท 5-6 ดาว ซึ่งไม่ไหว เอาตังไว้ซื้อของกลับบ้านดีกว่า ฉะนั้นจึงต้องพักตามเมืองรอบๆซัปโปโรไปเรื่อยๆ วันนี้เราจองได้ที่ Grand Chitose Hotel ราคาก็ 5,xxx บาท ใกล้สนามบิน มี shuttle bus รับ-ส่งด้วย...แต่เรายังไม่กลับวันพรุ่งนี้หรอก (วันนี้ 10 กพ.2017) เพราะจองเครื่องไว้ในวันที่ 12 กพ. พรุ่งนี้มีแผนจะไปดูเขาตกปลา smelt ที่เมืองโทโกไม (Tokomai) ครับ 

สำหรับวันนี้เราจะพาคุณๆไปชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำของเมืองชิโตเสะและเดินช้อปปิ้งที่ Aeon  
และ Rera outlet กันครับ


วิวเมืองชิโตเสะจาก Grand Chitose Hotel

เมืองชิโตเสะ (Chotose) เป็นเมืองไม่ใหญ่โตมากนักตั้งอยู่ใกล้สนามบินนานาชาติ New Chitose Airport ชิโตเสะมีพื้นที่ประมาณ 594 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 94,000 กว่าคน .... ชิโตะเซะยังเป็นหนึ่งในเส้นทางมุ่งหน้าสู่ อุทยานแห่งชาติชิโกะสึ-โทยะ, ทะเลสาบชิโกะสึ (หน้าร้อนคนชอบไปล่องเรือกันที่นี่) และ เขาทะรุมะเอะ ซึ่งล้วนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยมอีกด้วย

เราเดินทางมาจากเมืองโอตารุ โดยรถไฟมาลงที่สถานีชิโตเสะ (ก่อนถึงสนามบินนานาชาติ 2 สถานี) เราจองมาพักที่ Grand Chitose Hotel ห่างจากสถานีรถไฟชิโตเสะประมาณ 10 นาทีโดยรถยนต์ครับ ... สภาพเมืองตอนที่ไปถึงก็ท่วมไปด้วยหิมะ จึงเป็นการยากพอควรที่เราจะไปเที่ยวตามทะเลสาบและเขา เราจึงเลือกเที่ยวเฉพาะในเมืองโดยที่แรกที่เราจะไปคือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำครับ 





วิวเมืองชิโตเสะจาก Grand Chitose Hotel


พิพิธภัณฑ์แซลมอนเมืองชิโตเสะ (Chitose Salmon Aquarium)

อควาเรียมปลาแซลมอน (Chitose Salmon Aquarium) เป็นสถานที่จัดแสดงปลาแซลมอนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของเกาะฮอกไกโด ตั้งอยู่ริมแม่น้ำชิโตเสะ  ผู้ชมจะได้เรียนรู้ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับปลาแซลมอน และปลาชนิดอื่นๆในแม่น้ำชิโตเสะ และวงจรชีวิตของปลาแซลมอนในระยะต่างๆตั้งแต่ตัวอ่อนจนโตเต็มตัว นอกจากนี้ยังมีห้องสังเกตการณ์ใต้น้ำที่เป็นกระจกหนา สามารถมองเห็นใต้ผิวน้ำในแม่น้ำได้ ซึ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ประมาณเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนธันวาคมจะได้เห็นปลาแซลมอนที่กำลังว่ายทวนน้ำขึ้นมาเพื่อวางไข่ได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว




ที่เมืองชิโตเสะ (Chitose) มีแม่น้ำชื่อเดียวกันไหลผ่าน เป็นแหล่งที่ปลาแซลมอนว่ายทวนน้ำขึ้นมาวางไข่ จึงมีการให้ความสำคัญกับการศึกษาและเพาะพันธ์ุปลานี้ โดยมีการตั้ง อควาเรียมและศูนย์อนุรักษ์พันธ์ุปลาแซลมอน (Chitose Salmon Aquarium) ขึ้นที่ริมแม่น้ำชิโตเสะ ไม่ไกลจากสถานี JR Chitose นัก

ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ 800 เยน นักเรียนชั้นมัธยมปลาย 500 เยน ชั้นประถม 300 เยน
มีส่วนลดสำหรับผู้ทพพลภาพ (ครึ่งราคา)
เวลาเปิด-ปิด  9.00 - 17.00 น.









ภาพทะเลสาบชิโกสึ จากห้องนิทรรศการ

ภาพ Mt. Tarumae จากห้องนิทรรศการ


ภาพการ์ตูนแสดงวิถีชีวิตชาวเมือง



เพราะที่นี่มีปลาเยอะหนังปลาจึงถูกนำมาดัดแปลงเป็นรองเท้าในสมัยก่อน


จากพิพิธภัณฑ์ปลาแซลมอน เราเดินออกสู่ถนนใหญ่เพื่อไปที่ห้งอิออน (Aeon) เพื่อทานข้าวเที่ยงและแวะดูสินค้าที่พอซื้อได้ .... เดินไปได้พักหนึ่งทนหนาวไม่ไหวต้องเข้าไปหลบที่ซอกตึกรอเรียกแท๊กซี่ ซึ่งก็หายากพอควร ที่เมืองนี้ส่วนมากเขาจะโทรเรียกเอาซะมากกว่าไปยืนคอยตามถนน พอแท๊กซี่มาเราก็นั่งไปไม่นานจ่ายค่าแท็กซี่ 830 เยน (เริ่มต้นก็ 540 เยนแล้ว)

ที่ห้างอิออนเราสั่งราเมงรสต้มยำ รสชาดแปลกๆดี แต่ก็ถือว่าเข้มขึ้นมาหน่อย ราคาไม่แพงมากประมาณ 400 กว่าเยน ได้ราเมนและอเมริกันค๊อฟฟี่แล้ว ตอนนี้ไม่กลัวอะไรแล้ว ไปไหนไปกัน แต่ก็ไปไม่นานหรอกเพราะคุณภรรยาเธอเลือกรองเท้านานมาก เลยขอไปหามุมนั่งงีบซะก่อน.


ตามฟุตบาธในเมืองเวลาเดินต้องระวังมากกลัวลื่น


ในสวนที่ท่วมไปด้วยหิมะในเดือนกุมภาพันธ์


สวนสาธารณะที่ท่วมไปด้วยหิมะ



จากอิออนเรายังเหลือเวลาอีกมากกว่าจะมืด เรียกแท๊กซี่ไปลงที่สถานีรถไฟ มินามิ-ชิโตเสะ (Minami - Chitose Station) ซึ่งเป็นสถานีที่จะแยกเข้าแอร์พอร์ท แต่ประมาณ 100 เมตรจากสถานีจะมีที่ละลายทรัพย์อีกแห่งคือ เรระ ชิโตเสะเอ้าท์เลท (Rera Chitose Outlet Mall)  ... เราจะไปเดินที่นั่นต่อครับ



Rera outlet mall (จากเวป)

เป็นมอลล์แบบเปิดขนาดใหญ่ที่มีแบรนด์เนมเอาท์เล็ตกว่า 400 ร้าน บนพื้นที่กว่า 112,000 ตร.ม. พร้อมด้วยที่จอดรถที่สามารถจุได้ 4,800 คัน ‘เรระ’ มีความหมายว่า ‘สายลม’ ในภาษาไอนุแสดงถึงบรรยากาศโปร่งโล่งเป็นอิสระที่ราวกับมีสายลมเย็นสดชื่นพัดผ่าน 

มีร้านอาหารมากมายตั้งแต่อาหารญี่ปุ่น อาหารตะวันตก อาหารจีน จนถึงร้านขายขนมหวานโดยเฉพาะ และยังมี ‘นิทรรศการชิโตเสะราเมน’ ที่รวบรวมเอาร้านราเมนชื่อดัง 

ร้านขนมที่นี่มีให้เลือกมากจริงๆ ตอนไปเห็นคนไทยกำลังเลือกซื้อกันอยู่หลายกลุ่ม เราก็เป็นอีกกลุ่มที่ซื้อ ที่นี่จะต้องใช้พาสปอร์ตเหมือนตอนซื้อในสนามบินนะครับ ซื้อแล้วเขาจะแพ๊คในถุงพลาสติกใหญ่สวยงาให้ และเขียนข้อความเป็นสามภาษา (ญี่ปุ่น อังกฤษ และไทย) ว่า "ห้ามเปิดก่อนถึงปลายทางที่ประเทศไทย" ซึ่งก็หมายความว่า Duty Free.

เหลือบไปเห็นร้านไม้กอล์ฟเหมือนที่โอเทมบะ อยากได้ แต่จนใจไม่รู้จะหอบยังไง เฉพาะขนมก็เหมือนพวกบ้าหอบฟางเข้าไปแล้ว ไหนพรุ่งนี้จะต้องไปที่โทโกไมอีก...คือจริงๆแล้วเราต้องพักที่นี่เป็นที่สุดท้ายก่อนบินกลับไทย แต่ที่พักไม่เป็นใจเพราะราคาที่เราต้องการไม่มี.








จากเอ้าท์เลทมอลล์เรระ เรานั่งแท๊กซี่กลับไปที่โรงแรมแกรนด์ชิโตเสะ และจัดการกับมื้อเย็นที่ร้านอาหารแถวๆนั้น เพราะอากาศเย็นมาก ... ตื่นเช้ามาก็ทานอาหารเช้าที่โรงแรม ก่อนออกเดินทางไปสถานีรถไฟชิโตเสะ เพื่อเดินทางไปโทโกไม (Tokomai) เพื่อเที่ยวที่เมืองนั้นต่อ โดยไฮไลท์ของเราคือไปดูเขาตกปลา Smelt (Smelt fishing)ในทะเลสาบที่กลายเป็นน้ำแข็งครับ


💘💘ขอบคุณที่ตามอ่านครับ💘💘


ลาด้วยภาพแสงยามเช้าที่ชิโตเสะ

______________

ไม่มีความคิดเห็น: